Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

SEC ถกกฎระเบียบคริปโต ขณะทิศทางนโยบายภายใต้ทรัมป์เริ่มเป็นที่จับตา

Tue, 25 Feb 2025, 05:03 am UTC

SEC ถกกฎระเบียบคริปโต ขณะทิศทางนโยบายภายใต้ทรัมป์เริ่มเป็นที่จับตา / Tokenpost

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) กำลังมีการพูดคุยกับภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับกฎระเบียบคริปโต ขณะที่แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบังคับใช้กฎหมายบางส่วนภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มเป็นที่พูดถึง รายงานระบุว่า คณะทำงานด้านคริปโตของ SEC ได้หารือกับบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) มีการเปิดเผยเอกสารของ SEC ว่าคณะทำงานดังกล่าวได้พบปะกับตัวแทนของ ‘Crypto Council for Innovation’, ‘Zero Hash’ และ ‘Paradigm Operations’ โดยที่ประชุมได้เรียกร้องให้ SEC ทบทวนนโยบายที่เคยกำหนดให้สกุลเงินดิจิทัลหลายสกุลถือเป็นหลักทรัพย์

ท่ามกลางกระแสเกี่ยวกับทิศทางกฎระเบียบที่อาจเปลี่ยนแปลงภายใต้รัฐบาลของทรัมป์ หลายฝ่ายสังเกตว่า คำสั่งดำเนินคดีต่อภาคธุรกิจคริปโตบางส่วนซึ่งริเริ่มโดยอดีตประธาน SEC แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ตัวอย่างเช่น การสืบสวน ‘โรบินฮูด คริปโต(Robinhood Crypto)’ และ ‘โอเพนซี(OpenSea)’ ได้สิ้นสุดลง ขณะที่บางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า SEC อาจพิจารณายกเลิกการดำเนินคดีกับ ‘คอยน์เบส(Coinbase)’ เช่นกัน

ในอีกด้านหนึ่ง ‘ไบบิต(Bybit)’ แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตระดับโลก ได้ประกาศเมื่อวันที่ 21 ว่าสามารถกู้คืนความเสียหายจากการแฮ็กมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 52,000 ล้านบาท) ได้สำเร็จ เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอของไบบิต เปิดเผยบน X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ว่าบริษัทจะเผยแพร่รายงานตรวจสอบบัญชีฉบับใหม่ เพื่อยืนยันว่าเงินทุนของลูกค้าคงอยู่แบบ 1:1 ด้าน ‘Lookonchain’ บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน รายงานว่า ไบบิตสามารถเติมเงินคืนผ่านการกู้ยืม, เงินฝากจากนักลงทุนรายใหญ่ และการซื้อเพิ่ม โดยมีการระบุยอดเติมเต็มที่อีเธอเรียม(ETH) ประมาณ 446,870 เหรียญ

ในขณะเดียวกัน ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘ไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy)’ ได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีแผนซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่ม ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทดำเนินมาโดยตลอด เขาได้โพสต์กราฟที่เคยเผยแพร่ก่อนหน้านี้อีกครั้งบน X ขณะที่บริษัทถือครองบิตคอยน์จำนวน 478,740 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 45.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.72 ล้านล้านบาท)

ในอีกแง่มุมหนึ่ง มีการตั้งข้อสงสัยว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ ‘ลาซารัส กรุ๊ป(Lazarus Group)’ ของเกาหลีเหนือ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยโจมตีไบบิต อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการหลอกลวง ‘โซลานา(SOL)’ ประเภทมีมคอยน์ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ออนเชน ‘ZachXBT’ เผยว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มเดียวกันนี้จะอยู่เบื้องหลัง ‘rug pull’ บนแพลตฟอร์ม ‘Pump.fun’ โดยในการตรวจสอบพบว่าหลังการแฮ็กไบบิต มีเงิน 1.08 ล้านดอลลาร์ (ราว 38 ล้านบาท) ถูกโอนเข้ากระเป๋าเงินบนโซลานา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกใช้ในการหลอกลวงมีมคอยน์

ในภาวะที่ตลาดคริปโตต้องเผชิญกับความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและปัญหาการแฮ็ก การดำเนินงานของ SEC และการตอบสนองของภาคธุรกิจจะมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางของตลาดในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1