อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทแม็กซ์(BitMEX) เตือนว่าราคาของบิตคอยน์(BTC) อาจร่วงลงแตะ 70,000 ดอลลาร์ หากเกิดการไหลออกของเงินทุนจำนวนมากจากกองทุน ETF บิตคอยน์สหรัฐ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันด้านการขายต่อเนื่องในตลาด
เมื่อวันที่ 24 เฮย์สโพสต์บนโซเชียลมีเดีย X ว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์จำนวนมากกำลังมองหาทางออกจากกองทุน ETF อย่าง iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของแบล็คร็อก(BlackRock) เฮดจ์ฟันด์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ ‘การเทรดพื้นฐาน’ (basis trade) โดยซื้อ ETF และขายฟิวเจอร์สบิตคอยน์ของตลาดชิคาโก(CME) เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่มีความเสี่ยงต่ำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาบิตคอยน์ลดลง ผลตอบแทนจากกลยุทธ์นี้กลับลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้บางกองทุนเริ่มขาย IBIT และกลับไปซื้อฟิวเจอร์สของ CME แทน เฮย์สอธิบายว่าหากเกิดการชำระบัญชีขนาดใหญ่ในกระบวนการนี้ ราคาบิตคอยน์อาจตกลงไปที่ 70,000 ดอลลาร์
มาร์คัส ทีเลน(Markus Thielen) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ 10x Research ยังระบุในบันทึกการลงทุนเมื่อวันที่ 23 ว่าความต้องการ ETF บิตคอยน์ส่วนใหญ่มาจากเฮดจ์ฟันด์ที่มุ่งเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นมากกว่าการถือครองในระยะยาว เขากล่าวว่า หากส่วนต่างระหว่างราคาสปอตของบิตคอยน์และราคาฟิวเจอร์ส CME ลดลง เฮดจ์ฟันด์เหล่านี้อาจขาย ETF ออกมาเป็นจำนวนมาก
จากความกังวลนี้ เมื่อวันที่ 24 กองทุน ETF บิตคอยน์ 11 แห่งของสหรัฐ พบการไหลออกของเงินทุนรวม 517 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.4 แสนล้านวอน) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกองทุน IBIT ของแบล็คร็อกสูญเสียเงินทุน 159 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.29 แสนล้านวอน) ขณะที่กองทุน Wise Origin Bitcoin Fund ของฟิเดลิตี(Fidelity) มีเงินทุนไหลออกถึง 247 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.56 แสนล้านวอน) นอกจากนี้ กองทุนของ Bitwise, Invesco, VanEck, WisdomTree และ Grayscale ต่างก็ประสบภาวะเงินทุนไหลออกเช่นกัน
ราคาบิตคอยน์เมื่อเร็ว ๆ นี้ร่วงลงมากกว่า 5% ภายในวันเดียว โดยแตะระดับต่ำสุดที่ 91,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.31 แสนล้านวอน) ก่อนที่จะดีดตัวกลับเล็กน้อย นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการไหลออกของเงินทุนจาก ETF จะทำให้ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0