บิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 โดยการปรับตัวลงครั้งนี้เกิดจากแรงขายในกองทุน ETF บิตคอยน์สหรัฐฯ และการบังคับปิดสถานะครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 25 ตามรายงานของ Cointelegraph ราคาบิตคอยน์ร่วงลงแตะ 87,629 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้ การลดลงอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นหลังจากในวันที่ 24 กองทุน ETF บิตคอยน์สหรัฐฯ มีเงินไหลออกสุทธิ 516 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.4 พันล้านบาท) โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา กองทุนเหล่านี้เผชิญแรงขายต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกไปแล้วกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.65 หมื่นล้านบาท)
ปัจจัยกดดันตลาดมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจเดินทางเยือนสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีการกำหนดกำหนดการที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
การร่วงลงของบิตคอยน์ยังส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดคริปโต โดยข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการปิดสถานะซื้อขายคริปโตเป็นมูลค่ารวม 1.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.87 หมื่นล้านบาท) ซึ่งในจำนวนนั้น เป็นการบังคับปิดสถานะของบิตคอยน์สูงถึง 523 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.53 พันล้านบาท)
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การปรับฐานครั้งนี้คล้ายกับช่วงตลาดกระทิงในปี 2017 โดยราอูล พาล(Raoul Pal) ผู้ก่อตั้ง Global Macro Investor กล่าวว่า "ในตลาดกระทิงปี 2017 บิตคอยน์เคยเผชิญกับการปรับฐานระดับ 28% ถึง 5 ครั้ง ซึ่งเป็นไปได้ว่าการร่วงลงครั้งนี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรูปแบบเดียวกัน"
แม้ตลาดจะมีความผันผวนสูง แต่กลุ่มนักลงทุนระยะยาวอาจมองว่านี่เป็นโอกาสในการซื้อเพิ่ม อย่างไรก็ตาม แรงขายจาก ETF และปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับตัวลงต่อ ดังนั้น ควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
ความคิดเห็น 0