บิตคอยน์(BTC)ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ต่อการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นล่าสุดในกรุงโตเกียว แม้การพบปะระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ รวมถึงการประกาศข้อตกลงการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของทั้งสองประเทศ จะได้รับความสนใจจากตลาดทั่วโลก แต่ราคาของบิตคอยน์ยังคงแกว่งตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 113,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13 ล้านบาท) โดยไม่มีการเคลื่อนไหวที่โดดเด่น
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึง ‘การลดลงของอิทธิพลตลาดคริปโตของญี่ปุ่น’ ในระดับโลก ขณะที่ดัชนีนิเคอิ225 ได้ทะลุระดับ 50,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางค่าเงินเยนที่อ่อนค่าและยอดส่งออกที่แข็งแกร่ง ทำให้ตลาดทุนญี่ปุ่นได้รับความคาดหวังในเชิงบวก
รายงานจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลคริปโตคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่าค่าสหสัมพันธ์ระหว่างราคาบิตคอยน์กับดัชนีนิเคอิ225 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่เพียง 0.2 - 0.4 เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าทั้งสองสินทรัพย์มีความเชื่อมโยงกันน้อยมาก แตกต่างจากแนวโน้มของสหรัฐที่ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสามารถส่งผลต่อสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยตรง หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือญี่ปุ่นมี ‘สัดส่วนการถือครองบิตคอยน์ที่ต่ำ’ และมีผู้เล่นในตลาดจำนวนน้อย
ปัจจุบัน นักลงทุนจากญี่ปุ่นและภูมิภาคเอเชียอื่น ๆ มีสัดส่วนในระบบเศรษฐกิจบิตคอยน์ทั่วโลกเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ ‘สหรัฐ’ ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินมีบทบาทอย่างมากทั้งในด้านการลงทุนและการสะสมบิตคอยน์ นอกจากนี้ท่าทีที่อนุรักษนิยมต่อคริปโตของญี่ปุ่นยังสะท้อนออกมาในนโยบายสาธารณะ อย่างเช่น การไม่เข้าร่วมในการพัฒนา ETF หรือกรอบกำกับดูแลในระดับสำคัญ
CryptoQuant ยังระบุว่า ถ้าญี่ปุ่นต้องการฟื้นสถานะในเวทีโลกในด้านเทคโนโลยี เช่น คริปโต, ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีสีเขียว จำเป็นต้อง ‘ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้าง’ มิฉะนั้น แม้แต่การประชุมระดับผู้นำประเทศก็อาจไม่สามารถกระตุ้นตลาดได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม บางบริษัทญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าเข้าสู่โลกคริปโตด้วยแนวทางใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น เมตาแพลนเน็ต บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้ปรับกลยุทธ์การเงินมาเป็น ‘บิตคอยน์เป็นศูนย์กลาง’ ตั้งแต่ปี 2024 เพื่อรับมือกับค่าเงินเยนที่อ่อนตัว บริษัทนี้ถือครองบิตคอยน์จำนวน 30,823 BTC ซึ่งทำให้กลายเป็น ‘บริษัทที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดในเอเชีย’ และเป็นอันดับ 4 ของโลก
ในทำนองเดียวกัน บริษัทเกมอย่างเน็กซอนก็ได้ซื้อเพิ่มอีก 1,717 BTC ในช่วงครึ่งปีแรก และบริษัทปัญญาประดิษฐ์ญี่ปุ่น ควอนตัมโซลูชั่น ก็ประกาศแผนซื้อบิตคอยน์ 3,000 BTC ภายใน 1 ปีข้างหน้า ยังมีบริษัทสิ่งทอรายใหญ่ที่ออกมาแสดงความตั้งใจจะลงทุนในบิตคอยน์แบบรายงวด แสดงให้เห็นถึงการทดลองใช้คริปโตที่เริ่มขยายวงในภาคอุตสาหกรรมอย่างหลากหลาย
*ความคิดเห็น:* ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี แต่ในโลกของคริปโตดูเหมือนว่ายังเดิน ‘ช้ากว่ากระแสโลก’ การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและบทบาทนำจากภาคเอกชนอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนทิศทางในอนาคต
ความคิดเห็น 0