ไอบีเอ็ม(IBM) เปิดเผยแผนการเร่งพัฒนา *เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัม* เพื่อไปให้ถึงจุด ‘ความได้เปรียบควอนตัม(Quantum Advantage)’ ภายในปี 2026 โดยตั้งเป้าหมายสร้างระบบควอนตัมที่ทำงานเสถียรและไร้ข้อผิดพลาดได้อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2029
เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) ไอบีเอ็มจัดงาน ‘การประชุมนักพัฒนาควอนตัม’ ที่นครนิวยอร์ก พร้อมเปิดตัวโปรเซสเซอร์ควอนตัมรุ่นใหม่และเทคโนโลยีการแก้ไขข้อผิดพลาด ซึ่งตอกย้ำจุดยืนของบริษัทในการผลักดันไปสู่ยุค *ควอนตัมคอมพิวติ้งเชิงพาณิชย์* อย่างเต็มตัว
‘ความได้เปรียบควอนตัม’ หมายถึงจุดที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถแก้ปัญหาเฉพาะทางได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งไอบีเอ็มเผยว่าโปรเซสเซอร์ ‘ไนต์ฮอว์ก(Nighthawk)’ คือหัวใจสำคัญของเป้าหมายนี้ โดยสามารถลดอัตราความผิดพลาด ขณะเดียวกันเพิ่มความซับซ้อนของวงจรขึ้น 30% เทียบกับรุ่นก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดตัวโปรเซสเซอร์ทดลองรุ่นใหม่ในชื่อ ‘ลูน(Loon)’ ที่เน้นเทคโนโลยี *fault-tolerant* หรือระบบตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญของการทำให้ควอนตัมคอมพิวติ้งสามารถใช้งานได้จริงในวงกว้าง
ตัวแทนจากไอบีเอ็มกล่าวว่า “เทคโนโลยีที่เราเปิดเผยในวันนี้จะเป็นรากฐานให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมกลายเป็นเครื่องมือที่สร้างความได้เปรียบจริงในภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น *ปัญญาประดิษฐ์(AI)*, การเงิน หรือการพัฒนายา” พร้อมเสริมว่า แผนระยะยาวคือการสร้างระบบควอนตัมเชิงพาณิชย์ที่มีความสามารถในการแก้ไขข้อผิดพลาดได้สมบูรณ์แบบ
ความคิดเห็น: การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของไอบีเอ็มสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงระหว่าง *บิ๊กเทค* ในการครอบครองบทบาทผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งถ้าสำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากจะพลิกโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยังอาจสร้างแรงกระเพื่อมถึง *อุตสาหกรรมคริปโต* เช่น การเพิ่มความปลอดภัยของบล็อกเชน ไปจนถึงการอัปเกรดอัลกอริธึมเข้ารหัสในอนาคต
ความคิดเห็น 0