ปีเตอร์ แบรนดท์(Peter Brandt) นักลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ชื่อดัง ออกมาเตือนถึง ‘ความเป็นไปได้’ ที่ *บิตคอยน์(BTC)* อาจร่วงลงต่ำสุดถึงระดับ 50,000 ดอลลาร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) นักกลยุทธ์ที่เป็นที่รู้จักจากการลงทุนในบิตคอยน์ อาจต้องเผชิญกับ ‘บททดสอบครั้งใหญ่’
เมื่อวันที่ 24 แบรนดท์ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) ระบุว่า ราคาบิตคอยน์อาจเผชิญแรงขายจนลดลงไปต่ำสุดที่ 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.75 ล้านบาท) ซึ่งอาจทำให้ตำแหน่งของเซย์เลอร์ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท *สแตรทีจี(MSTR)* ต้องรับแรงกดดันอย่างหนัก เขาย้ำว่าการประเมินนี้ไม่ได้เป็นคำทำนายแน่ชัด แต่เป็นเพียงหนึ่งใน ‘ความเป็นไปได้เชิงเทคนิค’ ตาม จังหวะตลาด
คำเตือนนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่เซย์เลอร์เพิ่งเข้าซื้อบิตคอยน์ล็อตใหญ่เพิ่มเติม โดยทำให้ต้นทุนเฉลี่ยการซื้ออยู่ที่ 74,079 ดอลลาร์ (ราว 9.99 ล้านบาท) ต่อเหรียญ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น *สแตรทีจี* กลับร่วงลงอย่างต่อเนื่อง สู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 และลดลงไปแล้วเกือบ 35% แล้วในปีนี้ ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายกันที่ราว 212 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.86 แสนบาท)
แม้สถานการณ์ไม่เอื้อ เซย์เลอร์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการถือครองบิตคอยน์ โดยให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Finance ว่า “นักลงทุนต้องรู้จักระยะเวลาการลงทุนของตัวเอง พร้อมรับความผันผวนหากหวังผลตอบแทนสูงสุด” พร้อมชี้ว่า “ในตอนนี้ โอกาสที่มาพร้อมความเสี่ยงสูง เพื่อผลตอบแทนที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ยังมีให้เห็นในตลาดคริปโต”
ขณะเดียวกัน เจสัน คาลาคา니스(Jason Calacanis) นักลงทุนสายเอ็นเจลและเจ้าของพอดคาสต์ชื่อดัง แสดงความเห็นตรงข้ามอย่างชัดเจน โดยระบุว่าเขาจะไม่ลงทุนในหุ้น *สแตรทีจี* เด็ดขาด และเห็นว่าบริษัทดังกล่าวกำลัง ‘เสี่ยงต่อการล่มจม’ จากการถือครองคริปโตจำนวนมากในราคาสูงเกินไป
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ไม่เพียงดึงดูดความสนใจต่อภาวะตลาดบิตคอยน์เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความเปราะบางของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการถือบิตคอยน์ระยะยาวในราคาสูง จนกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมูลค่ากิจการ ความเคลื่อนไหวต่อไปของบิตคอยน์จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่ากลยุทธ์ของเซย์เลอร์จะนำพาบริษัทไปสู่ชัยชนะหรือความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้
ความคิดเห็น 0