สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดทำนาย ‘บิตคอยน์’ อาจแตะ 500,000 ดอลลาร์ในยุคของทรัมป์
เมื่อวันที่ 27 ตามรายงานของ CNBC เจฟฟรี เคนดริก หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ให้สัมภาษณ์ว่าบิตคอยน์(BTC) มีโอกาสแตะ 200,000 ดอลลาร์ภายในปีนี้ และอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 500,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นสุดวาระของประธานาธิบดีทรัมป์
เคนดริกระบุว่าปัจจัยหลักที่หนุนราคาบิตคอยน์ในระยะยาว คือการเพิ่มขึ้นของ ‘นักลงทุนสถาบัน’ และความชัดเจนด้านกฎระเบียบ ซึ่งช่วยให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น เขายังชี้ให้เห็นว่าการเข้ามาขององค์กรการเงินขนาดใหญ่อย่างแบล็คร็อก ส่งผลให้ตลาดคริปโตเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินหลัก
“เมื่อมีสถาบันการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ตลาดจะมีเสถียรภาพมากขึ้น และกระแสข่าวเชิงลบเกี่ยวกับบิตคอยน์ก็อาจลดลง” เคนดริกกล่าว พร้อมเน้นถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างความปลอดภัยของอุตสาหกรรมคริปโต โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับไบบิต ซึ่งสร้างความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
ในช่วงที่ผ่านมา บิตคอยน์เผชิญกับความผันผวน โดยราคาได้ร่วงลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่าง ‘Glassnode’ ให้ความเห็นว่าหากบิตคอยน์สามารถรักษาระดับแนวรับที่ 82,000 ดอลลาร์ไว้ได้ ก็มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
ด้านจูเลียน บิตเทล นักวิเคราะห์จากบริษัทลงทุน ‘Global Macro Investor’ ระบุว่าการพักฐานของบิตคอยน์ในช่วงนี้เป็นเพียง ‘จังหวะพักตัว’ ภายในตลาดขาขึ้น เขาเสริมว่านักลงทุนสถาบันและ ‘วาฬคริปโต’ กำลังใช้โอกาสนี้สะสมเหรียญเพื่อรอช่วงขาขึ้นถัดไป
นักวิเคราะห์มองว่าในช่วงหลายเดือนข้างหน้า นโยบายทางเศรษฐกิจและการปรับปรุงกฎระเบียบ อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันบิตคอยน์ให้พุ่งขึ้นต่อเนื่อง หากรัฐบาลทรัมป์ดำเนินนโยบายที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมคริปโต การไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันอาจช่วยรักษา ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ของตลาดในระยะยาว
ความคิดเห็น 0