ตลาดคริปโตปรับตัวลดลงในช่วงเช้าของตลาดเอเชียเมื่อวันที่ 28 เนื่องจากการประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการดำเนินการเก็บภาษีศุลกากรต่อแคนาดาและเม็กซิโก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
มูลค่าตลาดคริปโตทั่วโลกลดลง 6.4% ภายใน 24 ชั่วโมง เหลือประมาณ 2.65 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,869 ล้านล้านวอน) โดยเฉพาะบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน และสูญเสียมูลค่า 9.5% ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ หรือลดลง 10% ภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL) และไบแนนซ์คอยน์(BNB) ต่างขาดทุน 10%, 9% และ 10% ตามลำดับ ในขณะที่โดจคอยน์(DOGE) และคาร์ดาโน(ADA) ลดลง 11% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในกลุ่มเหรียญหลัก
ความไม่แน่นอนของตลาดส่งผลให้เกิดการบังคับขายสินทรัพย์ขนาดใหญ่ ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการปิดสถานะเลเวอเรจมูลค่ากว่า 879 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.28 ล้านล้านวอน) โดยเฉพาะสถานะ Long ของบิตคอยน์ซึ่งถูกปิดไปถึง 380.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 แสนล้านวอน)
แนวโน้มการร่วงลงของตลาดคริปโตครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมาก ดัชนี S&P500 ลดลง 1.94% ขณะที่แนสแด็กปรับตัวลง 2.75% แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกัน ทรัมป์ยังได้ประกาศเพิ่มภาษีศุลกากรอีก 10% สำหรับสินค้าจีน ทำให้นักลงทุนพากันลดความเสี่ยงและย้ายเงินเข้าสู่ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ตลาดมองว่าการปรับฐานนี้อาจเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น แต่ระดับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์อาจทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ ปัจจุบันมูลค่าตลาด 2.58 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,765 ล้านล้านวอน) ถูกมองว่าเป็นแนวรับเชิงเทคนิคที่สำคัญ ซึ่งอาจกดดันให้ตลาดลงต่อ อย่างไรก็ตาม หากสถาบันการเงินเริ่มเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาลดลง อาจมีโอกาสให้มูลค่าตลาดปรับขึ้นกลับสู่ระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,374 ล้านล้านวอน)
มีความจำเป็นที่ต้องจับตาผลกระทบจากนโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกกำลังวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ความคิดเห็น 0