ศาลสหรัฐฯ ยกฟ้องคดี SEC ต่อต้านผู้ก่อตั้ง HEX ริชาร์ด ฮาร์ต
ศาลสหรัฐฯ ตัดสินยกฟ้องคดีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ฟ้องร้อง ริชาร์ด ฮาร์ต (Richard Heart) ผู้ก่อตั้ง HEX ในข้อหาฉ้อโกง โดยให้เหตุผลว่า SEC ไม่มีอำนาจศาลในกรณีนี้
ฮาร์ต (ชื่อจริง ริชาร์ด ชูเลอร์) ถูกกล่าวหาว่าระดมทุนได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์จากการขายสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้จดทะเบียน และมีการนำเงินลงทุนจำนวน 12.1 ล้านดอลลาร์ไปใช้ส่วนตัว SEC อ้างว่าเงินบางส่วนถูกนำไปซื้อสินค้าหรูหรา เช่น เพชรแบล็กไดมอนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษา แคโรล แบกลีย์ อามอน (Carol Bagley Amon) ชี้ว่า SEC ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโครงการของฮาร์ตมุ่งเป้าไปที่นักลงทุนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ อีกทั้งการเคลื่อนย้ายเงินทุนส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและแพลตฟอร์มที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสหรัฐฯ
หลังคำตัดสิน ราคาของเหรียญ HEX(HEX), เพิร์ลเชน(PLS) และ เพิร์ลเอ็กซ์(PLSX) ที่ SEC เคยระบุว่าเป็น ‘หลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน’ พุ่งขึ้น 78%, 36% และ 67% ตามลำดับ
ฮาร์ตกล่าวถึงชัยชนะในครั้งนี้ว่า “HEX ดำเนินการมาอย่างสมบูรณ์แบบเป็นเวลากว่า 5 ปี” และเชื่อว่าคำตัดสินนี้จะส่งสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโต
อย่างไรก็ตาม ศาลยังเปิดโอกาสให้ SEC ยื่นฟ้องใหม่ภายใน 20 วัน (ภายในวันที่ 20 มีนาคม) ซึ่งอาจทำให้คดีความถูกนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
SEC ยังเปิดเผยว่าฮาร์ตใช้เงินลงทุนระหว่างเดือนสิงหาคม 2021 ถึงกันยายน 2022 ในการซื้อแบล็กไดมอนด์ 555 กะรัตจากอังกฤษ (มูลค่า 3.97 ล้านดอลลาร์) รถแมคลาเรนและเฟอร์รารี รวมถึงนาฬิกาโรเล็กซ์ 4 เรือน (มูลค่ารวม 3.02 ล้านดอลลาร์)
แม้ว่าปัจจุบันฮาร์ตจะอาศัยอยู่ในฟินแลนด์ แต่เขาถูกคุมตัวโดยทางการฟินแลนด์เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และที่อยู่ปัจจุบันยังไม่เป็นที่แน่ชัด อินเตอร์โพลออก ‘หมายแดง (Red Notice)’ ให้กับเขาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม และตำรวจฟินแลนด์ได้ยึดนาฬิกาหรูของเขามูลค่า 2.6 ล้านดอลลาร์
แม้จะเผชิญปัญหาด้านกฎหมาย ฮาร์ตก็ยังคงโปรโมตโครงการของเขาผ่านโซเชียลมีเดียและช่องยูทูบอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0