ริปเปิล(XRP) ยังคงเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เดวิด ชวาร์ตซ์(David "JoelKatz" Schwartz) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี(CTO) ของริปเปิล ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับจุดยืนของบริษัท เขาระบุว่าการขาย XRP เพื่อระดมทุนนั้นเป็นเรื่องปกติ และเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท
ชวาร์ตซ์ CTO ได้ตอบโต้ความคิดเห็นบางส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์กลยุทธ์การขาย XRP ของริปเปิล โดยเน้นย้ำว่าบริษัทต้องให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก "ริปเปิลสามารถและควรดำเนินการเพื่อประโยชน์ของตนเอง" เขากล่าว "นักลงทุนไม่ควรคาดหวังว่าริปเปิลจะเสียสละผลประโยชน์ของตนเพื่อให้พวกเขาได้ประโยชน์แทน"
คำพูดของชวาร์ตซ์ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น หลังจากมีการเปิดเผยว่าพบกระเป๋าเงิน XRP ที่คาดว่าเป็นของ คริส ลาร์เซน(Chris Larsen) ผู้ร่วมก่อตั้งริปเปิล นักวิเคราะห์บล็อกเชน ZachXBT รายงานว่ากระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับลาร์เซนถือครอง XRP ประมาณ 2.7 พันล้านเหรียญ หรือราว 7.18 แสนล้านบาท โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีบางส่วนถูกโอนไปยังแพลตฟอร์มซื้อขาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระเป๋าเงินดังกล่าวไม่มีการเคลื่อนไหวมานานกว่า 6 ปี จึงไม่แน่ชัดว่าลาร์เซนยังเป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์เหล่านี้หรือไม่
ในขณะเดียวกัน ราคา XRP มีการเคลื่อนไหวอย่างผันผวน หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าจะแนบ XRP เข้าไปในแผนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ราคาพุ่งขึ้นแตะ 2.99 ดอลลาร์ ก่อนร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 2.50 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์เตือนว่าการดำเนินการของทรัมป์ยังต้องผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรส ซึ่งอาจจำกัดผลกระทบในระยะสั้นต่อราคาของ XRP
ความเคลื่อนไหวของริปเปิลยังคงเป็นประเด็นร้อนในตลาดคริปโต นักลงทุนบางส่วนยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวทางของบริษัท อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของริปเปิลย้ำว่าการขาย XRP เป็นองค์ประกอบสำคัญของการดำเนินธุรกิจ และนักลงทุนควรมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางนี้
ความคิดเห็น 0