Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

SEC ยุติคดีคอยน์เบส จุดประกายข้อสงสัยแรงจูงใจทางการเมือง

Wed, 05 Mar 2025, 22:09 pm UTC

SEC ยุติคดีคอยน์เบส จุดประกายข้อสงสัยแรงจูงใจทางการเมือง / Tokenpost

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ได้ตัดสินใจยุติการฟ้องร้องต่อบริษัท คอยน์เบส(Coinbase) ซึ่งสร้างความสนใจอย่างมากในวงการคริปโต การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น ‘สัญญาณบวก’ ต่อตลาด พร้อมทั้งมีการตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ของ ‘แรงจูงใจทางการเมือง’ ที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้อง

SEC เคยยื่นฟ้อง คอยน์เบส ในปี 2023 โดยกล่าวหาว่าบริษัทดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ทว่าล่าสุด SEC ได้ตัดสินใจยุติคดีนี้ นอกจากนี้ ช่วงเวลาเดียวกัน SEC ยังระงับการสอบสวนธุรกิจคริปโตของโรบินฮูด(Robinhood) รวมถึงหยุดการศึกษาผลกระทบของยูนิสวอป(Uniswap) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงท่าทีเหล่านี้สอดคล้องกับแนวโน้มที่หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มผ่อนปรนกฎเกณฑ์ หลังจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ก่อให้เกิดคำถามว่าเป็น ‘การผ่อนปรนด้านกฎระเบียบ’ ตามปกติ หรือเป็นผลมาจาก ‘อิทธิพลของการสนับสนุนทางการเมือง’ ทั้งนี้ คอยน์เบส และ โรบินฮูด ต่างมีรายงานว่าได้บริจาคเงินสนับสนุนให้กับแคมเปญของ ทรัมป์ ขณะที่ ยูนิสวอป ก็มีส่วนร่วมในกองทุน PAC ด้านคริปโต ‘แฟร์เชก(Fairshake)’ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 116 ล้านดอลลาร์ การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาคคริปโตกับรัฐบาลทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย หรือเป็นผลพวงจากการสนับสนุนทางการเงิน

ความเคลื่อนไหวที่จะต้องจับตามองต่อไปคือ ท่าทีของ SEC ว่าจะ ‘ปรับเปลี่ยนมุมมอง’ ต่อสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่ รวมถึงโอกาสที่อำนาจกำกับดูแลอาจถูกโอนย้ายไปยังกฎหมายภายใต้ คณะกรรมการกำกับสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(CFTC) ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้ระเบียบข้อบังคับในอุตสาหกรรมคริปโตของสหรัฐเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หากรัฐบาล ทรัมป์ ผลักดันให้ CFTC มีบทบาทมากขึ้น บรรดาธุรกิจคริปโตก็อาจได้รับ ‘เสถียรภาพทางกฎหมาย’ ในการดำเนินกิจการ

นอกจากนี้ เรื่องของ ‘กฎระเบียบเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์’ และท่าทีของธนาคารที่มีต่ออุตสาหกรรมคริปโตก็เป็นอีกประเด็นที่น่าจับตา หากสหรัฐออกกฎควบคุมสเตเบิลคอยน์อย่างชัดเจน ก็อาจกระตุ้นให้เกิดการใช้งานที่แพร่หลายขึ้นโดยเฉพาะในภาคธุรกิจขนาดกลางและเล็ก อีกทั้งหาก เครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน(FinCEN) ผ่อนปรนแนวทางการประเมินความเสี่ยงของธุรกิจคริปโต ธนาคารในสหรัฐก็อาจเปิดรับความร่วมมือกับอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น

แม้ว่าแนวทางของ SEC จะส่งผลดีต่อวงการคริปโต แต่ข้อถกเถียงว่าการเปลี่ยนท่าทีนี้เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ก็ยังคงดำเนินต่อไป การตัดสินใจของ CFTC และ FinCEN รวมถึงแนวนโยบายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์และหลักทรัพย์ดิจิทัล อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้ทิศทางของนโยบายคริปโตภายใต้รัฐบาล ทรัมป์

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1