กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย 'ดาร์กสตอร์ม(Dark Storm)' อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีแบบ DDoS ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ X (เดิมคือ Twitter)
เมื่อวันที่ 10 ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ สปายโอซีเคียว(SpyoSecure) เปิดเผยผ่าน X ว่า "สำหรับใครที่สงสัยว่าเหตุใด X จึงล่ม ทีม 'ดาร์กสตอร์ม' ได้เป็นผู้ดำเนินการโจมตีนี้" โดยบริษัทอ้างอิงจากโพสต์บน Telegram ของกลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าว
การโจมตีในครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ใช้ X ประมาณ 40,000 รายประสบปัญหาในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์(Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ X ชี้แจงว่าระบบได้รับการกู้คืนอย่างรวดเร็ว โดยเขากล่าวในบทสัมภาษณ์กับ Fox Business ว่า “นี่เป็นการโจมตีทางไซเบอร์ขนาดใหญ่ที่พยายามทำให้ระบบของ X ล่ม” พร้อมระบุว่า "ที่มาของ IP ที่ใช้โจมตีดูเหมือนจะมาจากพื้นที่ในยูเครน"
'ดาร์กสตอร์ม' มีแนวคิดสนับสนุนปาเลสไตน์ และเป็นที่รู้กันว่าพวกเขาได้ดำเนินการโจมตีไซเบอร์ต่อประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(NATO) ตั้งแต่ปี 2023
นอกจากนี้ การโจมตีครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการประท้วงต่อต้านมัสก์ที่โรงงานของเทสลา(TSLA) ในสหรัฐฯ โดยกระแสการชุมนุม 'โค่นล้มเทสลา(Take down Tesla)' กำลังแพร่กระจายในโรงงานหลายแห่งของบริษัท สาเหตุหลักมาจากนโยบายของ 'กระทรวงเพิ่มประสิทธิภาพรัฐบาล(DOGE·Department of Government Efficiency)' ซึ่งมัสก์เป็นผู้นำ และนโยบายนี้เกี่ยวข้องกับการตัดงบประมาณของหน่วยงานรัฐหลายแห่ง
ในท่ามกลางความขัดแย้งดังกล่าว ราคาหุ้นของเทสลาในช่วงล่าสุดลดลงมากกว่า 15% มาอยู่ที่ 222 ดอลลาร์ และในช่วงซื้อขายนอกเวลาตลาด ราคายังคงปรับตัวลดลงอีก 3% มาอยู่ที่ 215 ดอลลาร์ แนวโน้มนี้สวนทางกับอัตราการเติบโตต่อปีของบริษัทที่ 24% และห่างไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 480 ดอลลาร์ ซึ่งทำสถิติไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2024
ทั้งนี้ X เคยตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีแบบ DDoS มาแล้วครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคมปีก่อน โดยในขณะนั้น มัสก์เปิดเผยว่าการโจมตีเกิดขึ้นเพียงไม่นานก่อนที่ X จะสัมภาษณ์ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลานั้น
ความคิดเห็น 0