บิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัวกลับมาทะลุ 80,000 ดอลลาร์ หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่นักลงทุนยังคงจับตาความไม่แน่นอนของตลาด โดยเฉพาะข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันที่ 12 มีนาคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับ 76,800 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนกังวลถึงความเป็นไปได้ของการปรับฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ราคากลับมาฟื้นตัวและปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือ 82,000 ดอลลาร์ แม้ว่าในปีนี้บิตคอยน์จะลดลงไปราว 14% และยังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลอยู่ประมาณ 26%
หนึ่งในเหตุผลหลักของการปรับฐานครั้งนี้ มาจากความผิดหวังของนักลงทุนต่อแผน "ทุนสำรองบิตคอยน์แห่งชาติ" ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เคยเสนอ หลังจากการประกาศดังกล่าว ตลาดมีความคาดหวังสูงขึ้น แต่เมื่อไม่มีการซื้อบิตคอยน์จากภาครัฐตามมา นักลงทุนจึงเทขายสินทรัพย์ นอกจากนี้ ปัจจัยมหภาคอย่างความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลก ล้วนสร้างแรงกดดันต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม สัญญาณจากตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ยังคงเป็นบวก โดยอัตราผลตอบแทนประจำปี (annualized premium) ของตลาดอนุพันธ์อยู่ที่ 4.5% ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงที่ตลาดร่วงหนักในอดีต นอกจากนี้ ดัชนี RSI ซึ่งเป็นมาตรวัดโมเมนตัมของราคา ปรับตัวจากระดับ 30 ขึ้นมาอยู่ที่ 40 บ่งชี้ว่าแรงขายเริ่มลดลง แต่หากต้องการยืนยันแนวโน้มขาขึ้น RSI จำเป็นต้องทะลุระดับ 50
แนวโน้มราคาบิตคอยน์ในอนาคตยังคงมีการถกเถียงกัน นักวิเคราะห์สายบวกมองว่าหากราคาปรับตัวขึ้นต่อ อาจมีโอกาสทะลุ 90,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม รายงาน CPI ที่กำลังจะเผยแพร่อาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาด นักลงทุนจึงต้องจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0