บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะ 82,000 ดอลลาร์ หลังสัญญาณ ‘ขาขึ้น’ ปรากฏ
เมื่อวันที่ 12 ตามรายงานของ Cointelegraph บิตคอยน์พุ่งขึ้น 5% ภายใน 24 ชั่วโมง จากจุดต่ำสุดที่ 76,450 ดอลลาร์ ไปแตะจุดสูงสุดที่ 83,786 ดอลลาร์ บนกราฟรายสัปดาห์ บิตคอยน์ยังคงรักษาระดับเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 50 สัปดาห์ ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
เหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วคือสัญญาณ ‘Bullish Divergence’ ซึ่งหมายความว่าราคาอาจทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ดัชนี RSI กลับสร้างจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าความกดดันของฝั่งขายลดลงและแรงซื้อเพิ่มขึ้น สัญญาณนี้ปรากฏในกราฟช่วงเวลา 15 นาที, 1 ชั่วโมง, 4 ชั่วโมง และ 1 วัน จึงเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
อีกปัจจัยที่ช่วยให้ราคาพุ่งขึ้นคือ บิตคอยน์ลดลงต่ำกว่าระดับแนวรับที่ 78,150 ดอลลาร์ในระยะสั้น ทำให้เกิดแรงซื้อกลับคืนมา ข้อมูลจาก CoinGlass แสดงให้เห็นว่ามีสถานะเลเวอเรจมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ ในช่วงราคา 85,000-87,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นแรงผลักดันให้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
ในเชิงวิเคราะห์ทางเทคนิค บิตคอยน์กำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ ‘Inverse Head and Shoulders’ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่ 88,000 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 83,800 ดอลลาร์ได้ ราคามีโอกาสพุ่งสู่ 89,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากบิตคอยน์ร่วงต่ำกว่า 78,500 ดอลลาร์ แนวโน้มขาขึ้นอาจถูกทำลาย
นักวิเคราะห์ตลาด RektProof คาดการณ์ว่าระดับ 86,000-88,000 ดอลลาร์ จะเป็นแนวต้านที่สำคัญในระยะสั้น และอาจมีการปรับฐานเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่ามีแนวรับแข็งแกร่งที่ 74,000-77,000 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้บิตคอยน์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคงในระยะยาว
ความคิดเห็น 0