ตลาดคริปโตเผชิญภาวะซื้อขายซบเซา หลังแตะจุดสูงสุดเมื่อ 27 กุมภาพันธ์
ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กิจกรรมการซื้อขายในตลาดคริปโตชะลอตัวลงอย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของตลาด ความลังเลนี้นำไปสู่ข้อสงสัยว่า การฟื้นตัวล่าสุดของราคาจะสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่
บริษัทวิเคราะห์ออนเชน ‘แซนติเมนต์(Santiment)’ ระบุว่า ตลาดกำลังอยู่ในช่วงของ ‘ความเหนื่อยล้า ความสิ้นหวัง และการยอมแพ้’ ซึ่งหมายความว่าถึงแม้จะมีการดีดตัวของราคา แต่หากปราศจาก ‘ปริมาณการซื้อขาย’ มาสนับสนุน แนวโน้มการปรับขึ้นจะไม่สามารถรักษาไว้ได้นาน หากราคาปรับตัวสูงขึ้นแต่ไม่มีแรงซื้อที่ชัดเจน โมเมนตัมของตลาดก็จะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ การลดลงของปริมาณการซื้อขายไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในหมู่นักลงทุนรายย่อยเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเลือกที่จะ ‘รอดูสถานการณ์’ หากทั้งสองกลุ่มยังลังเลที่จะกลับเข้าสู่ตลาด ความไม่แน่นอนก็อาจเพิ่มขึ้นอีก นักวิเคราะห์เชื่อว่าตลาดจะต้องเห็น ‘ราคาปรับตัวขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น’ เพื่อยืนยันสัญญาณการฟื้นตัวที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสัญญาณที่น่าสนใจคือ ‘กิจกรรมบนเครือข่ายของสเตเบิลคอยน์’ ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณการโอนสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถตีความได้ว่า นักลงทุนกำลังสะสม ‘เงินสด’ รอจังหวะเหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะสถาบันการเงินรายใหญ่ที่อาจกำลังใช้ตลาด OTC (Over-the-Counter) ในการจัดสรรคริปโตเพิ่ม สถานการณ์ลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะ ‘ปรับฐาน’ แทนที่จะเป็นช่วงขาลงจริง ๆ
แม้ว่าความเชื่อมั่นของตลาดยังอยู่ในระดับต่ำ แต่สัญญาณสภาพคล่องจากสเตเบิลคอยน์อาจเป็น ‘ตัวกระตุ้น’ ที่ช่วยหนุนการกลับมาของตลาด หากการสะสมเหรียญเกิดขึ้นในปริมาณมาก อาจนำไปสู่การปิดสถานะ ‘ชอร์ต’ ในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งสามารถผลักดันราคาฟื้นตัวในระดับที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังไม่กลับมา การฟื้นตัวนี้อาจเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
ความคิดเห็น 0