วีมิกซ์(WEMIX) ปฏิเสธข้อกล่าวหาปกปิดกรณีถูกแฮก 6.2 ล้านดอลลาร์
เมื่อเร็วๆ นี้ วีมิกซ์(WEMIX) ถูกกล่าวหาว่าปกปิดเหตุการณ์แฮกมูลค่า 6.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 225 ล้านบาท) แต่ทางทีมงานได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คิม ซอกฮวาน ซีอีโอของวีมิกซ์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า "ไม่มีเจตนาปกปิดเหตุการณ์แฮก" และอธิบายว่าขั้นตอนรับมือเป็นไปตามกระบวนการที่เหมาะสม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ระบบ ‘Play Bridge Vault’ ของวีมิกซ์ถูกโจมตี ส่งผลให้มีการรั่วไหลของโทเคน WEMIX กว่า 8.6 ล้านเหรียญ แต่การประกาศเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ล่าช้าไป 4 วัน
คิมระบุว่า "เราต้องการป้องกันการโจมตีเพิ่มเติมและลดความตื่นตระหนกของตลาด จึงเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลช้าลง" โดยการแฮกครั้งนี้เกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่สามารถขโมยกุญแจยืนยันตัวตนและหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบของแพลตฟอร์ม NFT ของวีมิกซ์ที่ชื่อ ‘ไนล์(NILE)’ จากนั้น แฮกเกอร์ได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบเป็นเวลาสองเดือน ก่อนจะพยายามถอนโทเคนออกถึง 15 ครั้ง ในจำนวนนี้ 13 ครั้งประสบความสำเร็จ ส่งผลให้โทเคนจำนวนมากถูกขายในตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศ
ทางวีมิกซ์ยืนยันว่าหลังจากตรวจพบการแฮก ได้ปิดระบบทันทีและเริ่มการสอบสวน ก่อนจะรายงานเหตุการณ์ต่อสำนักงานตำรวจนครบาลโซล อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลทำให้นักลงทุนไม่พอใจ และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก คิมอธิบายว่า "การประกาศโดยไม่เข้าใจช่องโหว่ที่แท้จริง อาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม" อีกทั้ง "เรายังพิจารณาความเสี่ยงของการเกิด ‘แพนิกเซล’ (การขายทิ้งเพราะความกลัว) ในตลาด"
แม้ทางวีมิกซ์จะออกมาชี้แจง แต่ตลาดกลับมีปฏิกิริยาเชิงลบ โดยหลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ราคาของ WEMIX ลดลงจาก 0.70 ดอลลาร์ เหลือ 0.52 ดอลลาร์ และเมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มีนาคม ราคาก็ร่วงลงต่อไปถึง 0.42 ดอลลาร์ แม้ในภายหลังจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังต่ำกว่าราคาเดิมก่อนเกิดเหตุการณ์ถึง 17%
ขณะที่การถกเถียงเกี่ยวกับการจัดการวิกฤตของวีมิกซ์ยังคงดำเนินต่อไป เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นบทเรียนสำคัญต่อวงการบล็อกเชน และอาจมีผลต่อแนวทางด้านความปลอดภัยและมาตรการตอบสนองของโครงการคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0