บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับแรงกดดันในการปรับตัวลงอีกครั้ง หลังตลาดหุ้นสหรัฐเข้าสู่ช่วงปรับฐาน โดยบิตคอยน์ร่วงลง 13.52% ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ที่สูงกับตลาดหุ้น โดยเฉพาะดัชนีแนสแด็กที่ลดลง 11.34% ทั้งนี้บิตคอยน์ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้น ย้ำถึงลักษณะของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
ปีเตอร์ ชิฟฟ์(Peter Schiff) นักลงทุนที่สนับสนุนตลาดทองคำ ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านแนวคิดที่ว่าบิตคอยน์เป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ โดยเขาชี้ว่าหากแนสแด็กปรับตัวลงต่อเนื่อง บิตคอยน์อาจร่วงลงไปแตะระดับ 65,000 ดอลลาร์ และหากตลาดหุ้นทรุดตัวหนักถึง 40% ราคาบิตคอยน์ก็อาจร่วงต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์
ในทางตรงกันข้าม ราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และแสดงบทบาทของ ‘สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง’ อย่างชัดเจน โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้น 13.86% ตั้งแต่ต้นปี และเพิ่มขึ้นอีก 12.46% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ชิฟฟ์คาดการณ์ว่าหากตลาดหุ้นยังคงผันผวน ราคาทองคำอาจพุ่งทะลุระดับ 3,800 ดอลลาร์
ในภาวะที่บิตคอยน์ร่วงลงพร้อมกับตลาดหุ้น ความเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบันจึงเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy) และกองทุน ETF บิตคอยน์ ที่อาจมีบทบาทสำคัญต่อแนวโน้มราคาบิตคอยน์ในระยะถัดไป หากตลาดยังคงเผชิญแรงกดดัน ความผันผวนของราคาบิตคอยน์ก็อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีก
ความคิดเห็น 0