ราคาของริปเปิล(XRP) ลดลง 3.8% ภายในวันเดียว โดยแตะระดับ 2.35 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 27.5% เป็น 3,370 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงแรงขายที่แข็งแกร่งในตลาด
นักวิเคราะห์ระบุว่าปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการปรับฐานของ XRP ในครั้งนี้มาจากสามประเด็นหลัก ได้แก่ การถอนอุทธรณ์ไขว้ของริปเปิลในคดีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) สถานการณ์ซบเซาในตลาดตราสารอนุพันธ์ และรูปแบบทางเทคนิคที่บ่งชี้แนวโน้มขาลง
เมื่อวันที่ 25 ริปเปิลได้ถอนอุทธรณ์ไขว้ในข้อพิพาททางกฎหมายที่ดำเนินมายาวนานถึง 4 ปี กับ SEC ส่งผลให้คาดการณ์การจ่ายค่าปรับลดลงจาก 125 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 50 ล้านดอลลาร์ ขณะที่อีก 75 ล้านดอลลาร์จะได้รับคืน อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับตอบสนองต่อข่าวนี้อย่างจำกัด
ด้านตลาดตราสารอนุพันธ์ พบว่าความสนใจใน XRP ลดลงอย่างชัดเจน โดยมูลค่าคงค้างของสัญญาฟิวเจอร์สและออปชันปัจจุบันอยู่ที่ 3,820 ล้านดอลลาร์ ลดลง 52% จากระดับสูงสุดของปีที่ 7,800 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 18 มกราคม นอกจากนี้ อัตราค่าธรรมเนียมระหว่างผู้ถือสถานะซื้อและขาย (Funding Rate) เปลี่ยนจาก 0.0088% เป็น -0.0049% ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของสถานะขายมากขึ้น
ในแง่ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค XRP ได้พังแนวรับที่ 2.45 ดอลลาร์ หลังจากสร้างรูปแบบ ‘ธงหมี’ (Bear Flag) แนวรับชั่วคราวขณะนี้อยู่ที่ 2.30–2.22 ดอลลาร์ ขณะที่หากราคาย่อลงไปต่ำกว่านี้มีโอกาสร่วงลงถึง 1.60 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง ปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt) ยังเตือนว่าหากรูปแบบ ‘เฮดแอนด์โชลเดอร์’ (Head and Shoulders) ของ XRP สมบูรณ์ ราคามีโอกาสร่วงลงอีก 50% ไปแตะระดับ 1.07 ดอลลาร์
เมื่อตลาดเผชิญภาวะซบเซา นักเทรดมองว่าหาก XRP ต้องการกลับตัวเป็นขาขึ้น ควรจะต้องกลับไปยืนเหนือ 3.00 ดอลลาร์ให้ได้ นักลงทุนยังคงจับตาดูแรงซื้อใหม่ๆ ที่อาจเข้ามาหนุนให้ XRP ฟื้นตัวในอนาคต
ความคิดเห็น 0