เกมสต็อป(GME) บริษัทค้าปลีกเกมของสหรัฐฯ เผชิญการร่วงของราคาหุ้นอย่างรุนแรง หลังประกาศแผนลงทุนในบิตคอยน์(BTC) ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.38 ล้านล้านวอน จากรายงานเมื่อวันที่ 26 บริษัทประกาศว่าเตรียมใช้เงินระดมทุนกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านวอน) ผ่านการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ เพื่อซื้อบิตคอยน์และเหรียญเสถียรที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้น 12% ในวันประกาศ แต่ก็ร่วงลงถึง 24% ในวันถัดมาท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน
ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของตลาดต่อ *รูปแบบธุรกิจพื้นฐาน* ของเกมสต็อป เบรตต์ เคนเวลล์ นักวิเคราะห์การลงทุนจาก eToro แสดง *ความคิดเห็น* ว่า “นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นในโครงสร้างของเกมสต็อป และการหันมาใช้บิตคอยน์ดูเหมือนจะไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาทางธุรกิจอย่างแท้จริง” พร้อมกับชี้ว่า ความไม่แน่นอนของตลาดต่อบิตคอยน์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น ปัจจุบันราคาบิตคอยน์ลดลงราว 7% เมื่อเทียบกับต้นปี อยู่ที่ราว 87,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.27 ล้านบาท) โดยต่างประเมินว่าความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจกดดันบรรยากาศการลงทุนด้วย
เกมสต็อปไม่ใช่รายแรกที่ผนวกบิตคอยน์เข้าในแผนกลยุทธ์องค์กร โดย *ไมโครสแตรทิจี(MSTR)* ถือเป็นผู้บุกเบิกนับตั้งแต่ปี 2020 ด้วยการลงทุนไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 43.8 ล้านล้านวอน) ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 350% ภายในปีที่ผ่านมา ในกระแสนี้ บริษัทจดทะเบียนทั่วโลกรวมแล้วถือครองบิตคอยน์มูลค่ารวมกว่า 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 84.8 ล้านล้านวอน)
แต่กรณีของเกมสต็อป แสดงให้เห็นว่า หากบริษัทยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ แผนการลงทุนในบิตคอยน์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างแรงหนุนต่อราคาหุ้น นักวิเคราะห์เน้นว่า กลยุทธ์ที่ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือเร่งราคาหุ้นในระยะสั้น ไม่สามารถทดแทนความจำเป็นของ *การปรับโครงสร้างธุรกิจและสร้างกำไรที่แท้จริง* ได้ แม้บิตคอยน์จะมีทั้ง *สัญลักษณ์และศักยภาพ* ในระยะยาว แต่สุดท้ายแล้วนักลงทุนยังให้ความสำคัญกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอย่างแท้จริงมากกว่า
ความคิดเห็น 0