ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญแรงเทขายอย่างหนักในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้บิตคอยน์(BTC) และสกุลเงินดิจิทัลหลักอื่น ๆ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาบิตคอยน์หลุดระดับ 83,800 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 88,000 ดอลลาร์เพียงหนึ่งวันก่อนหน้า คิดเป็นการปรับตัวลงกว่า 4.2% ในขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงสู่ระดับมูลค่าต่ำสุดเมื่อเทียบกับ BTC นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 พร้อมกันนี้ มูลค่าตลาดคริปโตรวมลดลงกว่า 115,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 167.9 ล้านล้านวอน ภายในวันเดียว
เหรียญทางเลือก(Altcoin) อย่างอาวาแลนเช(AVAX), โพลีกอน(POL), เนียร์(NEAR) และยูนิสวอป(UNI) ต่างประสบกับภาวะดิ่งหนัก โดยร่วงมากถึง 8% ถึง 10% ในวันเดียวกัน นอกจากนี้ อีเธอเรียมได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการที่เงินทุนไหลเข้า ETF ของ ETH หยุดลงตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนอ่อนแรงลง ซึ่งตรงกันข้ามกับบิตคอยน์ที่ยังมีกระแสเงินทุนไหลเข้ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
ปัจจัยจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เองก็สร้างแรงกดดันไม่น้อย หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ปรับขึ้น 2.5% จากปีก่อนหน้า และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.8% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% สะท้อนความกังวลที่มีต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยแบบจำลอง GDPNow ของธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสแรกของปีนี้อาจหดตัวถึง -2.8% และมาตรการเพิ่มภาษีกับจีนที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 2 เมษายนก็ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์
ด้วยปัจจัยหลายด้านที่กดดัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กจึงปรับตัวลงอย่างแรง โดยดัชนี S&P500 ร่วง 2% ขณะที่แนสแดกร่วง 2.8% หุ้นคริปโตชื่อดังอย่างคอยน์เบส(COIN) และไมโครสแตรเทจี(MSTR) ร่วงลงกว่า 7.7% และ 10% ตามลำดับ ขณะที่ราคาบิตคอยน์ในตลาดล่วงหน้า ชิคาโก้ (CME) แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการปรับฐานที่เคยมี "ช่องว่างราคา" (Gap) ซึ่งในครั้งนี้ราคาก็ได้กลับมาปิดช่องว่างนั้น
แม้แนวโน้มโดยรวมยังคงผันผวน แต่ภาพระยะกลางถึงระยะยาวยังไม่ชัดเจน บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล ซานติเมนต์(Santiment) ระบุว่า ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อ่อนตัวลง บิตคอยน์นั้นยังสามารถทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 84,300 ดอลลาร์ สะท้อนว่า ‘การเคลื่อนไหวของบิตคอยน์เริ่มแยกตัวออกจากหุ้นสหรัฐฯ’ อันเป็นสัญญาณเชิงบวกเมื่อเทียบกับช่วงตลาดหมีในปี 2022
โจเอล ครูเกอร์ นักกลยุทธ์จาก LMAX Group ให้ความเห็นว่า “แม้ในระยะสั้นอาจมีการปรับฐานเพิ่มเติม แต่พื้นที่ 70,000–75,000 ดอลลาร์ถือเป็นแนวรับแข็งแกร่ง” พร้อมเสริมว่าการที่มีสถาบันการเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้นทำให้มีโอกาสฟื้นตัวในระยะกลางถึงยาว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เทคนิค ไมเคิล ฟาน เดอ โพเป(Michael van de Poppe) เตือนว่า “ระดับรับของบิตคอยน์อยู่ใต้ 84,000 ดอลลาร์ และโมเมนตัมเริ่มอ่อนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดการปรับตัวลงต่อได้ไม่ยาก” เขาคาดว่าความผันผวนอาจยังคงอยู่จนถึงต้นไตรมาสที่ 2
โดยรวมแล้ว ตลาดคริปโตอยู่ในภาวะอ่อนไหวจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจมหภาคและการเบาบางของแรงซื้อในกลุ่มเหรียญหลัก ซึ่งการฟื้นตัวของราคาน่าจะขึ้นอยู่กับทิศทางของข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคตและความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ.
ความคิดเห็น 0