Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คอยน์คอล(Coincall) ผงาดติด 5 อันดับแรกของตลาดออปชันคริปโตโลกใน 18 เดือน

Sat, 29 Mar 2025, 15:46 pm UTC

คอยน์คอล(Coincall) ผงาดติด 5 อันดับแรกของตลาดออปชันคริปโตโลกใน 18 เดือน / Tokenpost

แพลตฟอร์มซื้อขายออปชันคริปโตน้องใหม่อย่าง ‘คอยน์คอล(Coincall)’ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง *5 อันดับแรก* ของตลาดออปชันคริปโตระดับโลกตามปริมาณการซื้อขายได้ภายในระยะเวลาเพียง 18 เดือน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของโครงการนี้ในฐานะศูนย์กลางใหม่ของตลาดอนุพันธ์คริปโต

เมื่อวันที่ 28 (เวลาท้องถิ่น) CryptoPotato รายงานถึงเบื้องหลังการเติบโตของคอยน์คอลในไตรมาสแรก โดยชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์การตลาดแบบเข้มข้นและการจับมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ SignalPlus, DWF และ Big Candle Capital เป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ผลักดันทั้งการขยายฐานผู้ใช้และพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ในอดีต ออปชันคริปโตเคยเป็นสนามของนักลงทุนประเภทควอนไทน์หรือเฮดจ์ฟันด์เท่านั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็น ‘เครื่องมือขั้นสูง’ สำหรับนักลงทุนทั่วไป ด้วยโครงสร้างการซื้อขายที่เปิดโอกาสให้วางเดิมพันด้านทิศทางราคาหรือป้องกันความผันผวนผ่าน "สิทธิ์" ในการซื้อขายตามราคาที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงต้นเดือนนี้ที่มีข่าวลือว่าคอยน์เบส(COIN) กำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการของเดอริบิต(Deribit) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตลาดออปชันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยิ่งตอกย้ำถึง ‘น้ำหนัก’ ที่เปลี่ยนจากตลาดสปอตมาสู่สินทรัพย์อนุพันธ์อย่างชัดเจน

คอยน์คอลซึ่งก่อตั้งขึ้นปลายปี 2023 สามารถขึ้นมามีปริมาณการซื้อขายราว 9–10% ของเดอริบิตได้ภายในเวลาไม่นาน โดยอ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ Laevitas ระบุว่า ระหว่างวันที่ 8–17 มีนาคม คอยน์คอลมีส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 5.43% และแตะจุดสูงสุดที่ *10.15%* เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ขณะที่วันที่ 8 และ 16 มีนาคม ก็มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 9.78% และ 6.64% ตามลำดับ แสดงถึงความต้องการใช้ออปชันที่พุ่งขึ้นในช่วงเวลานั้น

ผู้เชี่ยวชาญในวงการมองว่านี่ไม่ใช่เพียงแรงสะท้อนจากเหตุการณ์ระยะสั้น แต่เป็นสัญญาณของการ *ฝ่าความจำกัดเชิงโครงสร้าง* ที่กำลังก่อตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคอยน์คอลเริ่มมีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกับไบด์บิท(Bybit) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญ ส่งผลให้หลายฝ่ายเริ่มคาดการณ์ถึง *การควบรวมกิจการ* หรือการเข้าร่วมลงทุนจากสถาบันต่างๆ ในอนาคต

พลังขับเคลื่อนของคอยน์คอลยังมาจากการเข้ารับตำแหน่งของดาริล เตียว(Daryl Teo) ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ(COO) โดยเขาเคยทำงานในอาลีบาบากรุ๊ป(NYSE: BABA) และมีประสบการณ์การลงทุนในคริปโตมาก่อน เตียวเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนมกราคม ปีนี้ เขากล่าวว่า “คริปโตกำลังได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือเก็บมูลค่า ขณะที่ ‘ออปชัน’ คือขั้นตอนต่อไป” พร้อมย้ำว่า คอยน์คอลมีเป้าหมายในการมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ ‘เข้าใจง่าย และปลอดภัย’

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่กำลังได้รับการจับตามองคือระบบ ‘Earn While You Trade’ หรือ *EWYT* ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ถือ USDT ได้ผลตอบแทนรายปีสูงสุดถึง 6.4% โดยที่สามารถใช้ *90%* ของเงินที่ถูกสเตกไว้เป็นมาร์จิ้นได้พร้อมกัน จุดเด่นอยู่ที่ไม่มีข้อจำกัดในการถอนเงิน และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เคลื่อนไหวในตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมการลงทุนในปี 2024 ก็เอื้อต่อการเติบโตของคอยน์คอลมากขึ้น โดยมีการลงทุนจากเวนเจอร์แคปิตอลรวมกว่า 2,153 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 11.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว *1.68 หมื่นล้านบาท* เตียวเสริมว่า “โครงการที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างแท้จริงจะเป็นพลังขับเคลื่อนหลักของระบบนิเวศคริปโตในอนาคต” พร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทของ ‘แพลตฟอร์มที่มีเป้าหมายชัดเจน’

คอยน์คอลกำลังกลายเป็น ‘คลื่นลูกใหม่’ ของตลาดอนุพันธ์ พร้อมก้าวสู่พื้นที่แข่งขันเพื่อสร้าง *นวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐาน* ด้วยองค์ประกอบที่ครบครันทั้งความเร็ว อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์ทำกำไร นักลงทุนต่างจับตามองว่าแพลตฟอร์มมาแรงนี้จะเขย่าบัลลังก์ของผู้เล่นรายเดิมในตลาดได้เร็วเพียงใด

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1