ตำรวจสเปนจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 6 คนที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)เพื่อก่อเหตุ *หลอกลวงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีระดับโลก* โดยมูลค่าความเสียหายสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 720 ล้านบาท โดยมีผู้เสียหายอย่างน้อย 208 ราย
เมื่อวันที่ 7 เมษายน (เวลาท้องถิ่น) ตำรวจสเปนระบุว่า กลุ่มผู้ต้องหานี้ใช้แผนหลอกลวงแบบสามขั้นตอนที่มีการวางโครงสร้างซับซ้อน ตั้งแต่การชักชวนให้ลงทุนในคริปโต พร้อมอ้างการันตีผลตอบแทนสูง จากนั้นจะติดต่อกลับในฐานะผู้จัดการการลงทุนหรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เพื่อขอเงินเพิ่มโดยอ้างว่าสามารถคืนเงินเดิมได้ และหลายคนตกเป็นเหยื่อซ้ำสองหรือสามครั้งจากความหวังว่าจะได้เงินคืน
เทคโนโลยี AI และ *ดีพเฟค* ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญของขบวนการ หนึ่งในเทคนิคคือการสร้างวิดีโอปลอมโดยนำภาพของบุคคลมีชื่อเสียงมาใช้นำเสนอว่า “การลงทุนนี้ไม่มีทางขาดทุน” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เนื้อหาถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียแบบเจาะจงเป้าหมายโดยใช้อัลกอริทึมที่เลือกกลุ่มผู้ชมอย่างแม่นยำ บางรายอ้างตัวเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหรือเข้าไปสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวก่อนหลอกล่อเงินทุน
บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่าง *เชนแอลลิซิส(Chainalysis)* ได้ออกมาเตือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า AI กำลังทำให้การโกงมีความ ‘เป็นระบบมากขึ้น’ และ ‘ลดต้นทุนการดำเนินงาน’ *ความคิดเห็น*: นี่แสดงให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นอาวุธในมือของนักต้มตุ๋นยุคใหม่
เมื่อมีเหยื่อบางรายเริ่มสงสัยว่าถูกหลอกและพยายามขอเงินคืน กลุ่มผู้ต้องหากลับแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของ *ตำรวจยุโรป(Europol)* หรือทนายความในสหราชอาณาจักร โดยหลอกว่ากองทุนถูกอายัดต่างประเทศ และต้องจ่ายค่าภาษีจึงจะปลดล็อกเงินได้ ตอนหลังตำรวจยืนยันว่าทั้งหมดนี้เป็นกลลวง
ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหาครอบคลุมทั้งการฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ปลอมแปลงเอกสาร และการจัดตั้งองค์กรอาชญากรรม โดยตำรวจเข้าตรวจค้นแหล่งพักของหัวหน้าขบวนการ พบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อาวุธจำลอง, เอกสารสำคัญ และเครือข่ายของบริษัทบังหน้าหลายสิบแห่งที่ใช้ในการฟอกเงิน นอกจากนี้ยังพบว่าใช้เอกสารแสดงตนปลอมกว่า 50 รายการเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม
นอกจากในสเปนแล้ว ตำรวจยังอยู่ระหว่างสืบสวนผู้เกี่ยวข้องในประเทศอื่น ๆ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะลุกลามเป็น*องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ* ตำรวจสเปนเตือนนักลงทุนว่า *ความเสี่ยงจากการผสมผสานระหว่าง AI และคริปโต* กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และขอให้ประชาชนระมัดระวังเป็นพิเศษขณะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0