สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้อนุมัติให้มีการซื้อขาย *ออปชันของกองทุน ETF ที่อ้างอิงอีเธอเรียม(ETH)* เมื่อวันที่ 9 (เวลาท้องถิ่น) อย่างเป็นทางการ การตัดสินใจครั้งนี้คาดว่าจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถเข้าถึงอีเธอเรียมได้หลากหลายขึ้น และเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว
การอนุมัติดังกล่าวมีพื้นฐานจากคำขอแก้ไขกฎที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแบล็คร็อกได้ยื่นในนามไอแชร์สอีเธอเรียมทรัสต์(ETHA) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมปีที่ผ่านมา โดยทาง SEC ได้ให้สิทธิ์แบบเดียวกันกับกองทุนอื่น เช่น บิทไวส์อีเธอเรียม ETF(ETHW), เกรย์สเกลอีเธอเรียมทรัสต์(ETHE) และมินิทรัสต์(ETH) รวมถึงฟิเดลิตี้อีเธอเรียมฟันด์(FETH)
SEC ระบุว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ได้เสนอให้เปลี่ยนแปลงกฎ เพื่อรองรับการซื้อขาย *ออปชันของผลประโยชน์ในอีเธอเรียมทรัสต์* โดยชี้ว่า "จะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการการป้องกันความเสี่ยงในต้นทุนที่ต่ำกว่า และสามารถจัดการพอร์ตได้ยืดหยุ่นมากขึ้น"
ตัวออปชันใน ETF สามารถใช้เป็นกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงเมื่อตลาดมีแนวโน้มลดลง การใช้ออปชันกับกองทุน ETF อีเธอเรียมจึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญหลังการอนุมัติ ETF แบบสปอตในปีก่อน และแสดงถึงความเติบโตของอีเธอเรียมในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก อย่างไรก็ดี ข้อมูลจนถึงขณะนี้พบว่า การไหลเข้าสุทธิของ ETF อีเธอเรียมยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับบิตคอยน์(BTC)
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ VettaFi ระบุว่า ไอแชร์สอีเธอเรียมทรัสต์(ETHA) ของแบล็คร็อก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารราว 1.8 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.63 ล้านล้านวอน เทียบกับต้นปีพบว่าปรับตัวลดลงราว 56%
การเดินหน้านโยบายของ SEC ครั้งนี้ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับทิศทางนโยบายของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่เพิ่งกลับมาดำรงตำแหน่ง โดยข้อมูลจาก Harvard Law School Forum on Corporate Governance ระบุว่า ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง SEC ได้ลดระดับความเข้มงวดต่ออุตสาหกรรมคริปโตอย่างรวดเร็ว สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เล่นในตลาด
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา SEC ได้ยุติการสืบสวนหลายเคส เช่น เจมินี, คอยน์เบส และยูนิสวอป(Uniswap Labs) ตลอดจนนิฟตี้แพลตฟอร์มชื่อดังอย่างโอเพนซี(OpenSea) โดยไม่มีแผนจะดำเนินคดีเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ เริ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโต อย่างชัดเจน โดยคณะกรรมาธิการบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎร ได้ผ่านร่างกฎหมาย STABLE ที่ส่งเสริมการใช้ *สเตเบิลคอยน์* ขณะที่คณะกรรมการธนาคารวุฒิสภา ก็กำลังผลักดันร่างกฎหมาย GENIUS ที่มุ่งควบคุมผู้ออกสเตเบิลคอยน์ และมีแนวโน้มว่ากฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตในระดับรัฐบาลกลางจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
ด้วยการอนุมัติ *ออปชันของ ETF อีเธอเรียม* ครั้งนี้ ภาพรวมของกฎระเบียบด้านคริปโตในสหรัฐฯ กำลังคลายความเข้มงวดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางสนับสนุนคริปโตของรัฐบาลทรัมป์ *ความคิดเห็น*: นี่อาจเป็นโอกาสสำคัญที่อีเธอเรียมจะได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันในระดับโลกมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0