ความต้องการลงทุนในบิตคอยน์(BTC) จากสถาบันยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครสเตรเทจี(MicroStrategy) และเป็นหนึ่งในผู้ถือครองบิตคอยน์รายใหญ่ของโลก ได้ส่งสัญญาณการเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 20 เขาได้โพสต์กราฟที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การซื้อบิตคอยน์ผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) พร้อมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสถานะการถือครองและฐานนักลงทุนของบริษัท สะท้อนความเป็นไปได้ของการลงทุนเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 14 เมษายน ไมโครสเตรเทจีได้เข้าซื้อบิตคอยน์จำนวน 3,459 BTC เพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดถือครองสะสมอยู่ที่ 531,644 BTC มูลค่าการซื้อครั้งนั้นอยู่ที่ราว 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,161 พันล้านวอน และมูลค่ารวมของบิตคอยน์ที่บริษัทถือครองทั้งหมดมีประมาณ 44,900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 65.55 ล้านล้านวอน
เซย์เลอร์ยังเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนักลงทุนในไมโครสเตรเทจีเป็นครั้งแรกว่า ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีนักลงทุนสถาบันมากกว่า 13,000 ราย และบัญชีบุคคลธรรมดาอีกกว่า 814,000 บัญชีที่ลงทุนใน MSTR โดยตรง และคาดว่าจะมีนักลงทุนอีกประมาณ 55 ล้านคนที่มีการลงทุนทางอ้อมผ่าน ETF, กองทุนรวม, กองทุนบำนาญ และพอร์ตของบริษัทประกัน
การที่ไมโครสเตรเทจีเลือกเปลี่ยนเงินทุนของบริษัทไปลงทุนในบิตคอยน์ แทนการถือครองสินทรัพย์ในระบบการเงินแบบดั้งเดิม สะท้อนอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของบริษัทต่อราคาตลาด เนื่องจากบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีจำนวนจำกัด การที่มีบริษัทขนาดใหญ่เข้าซื้อและถือครองในระยะยาว ย่อมเป็นแรงกดดันด้านอุปทาน อาจนำไปสู่ราคาที่เพิ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญในตลาดคริปโตมองว่า ความต้องการเชิงกลยุทธ์จากบริษัทลักษณะนี้ เป็น ‘ตัวเร่ง’ ที่ช่วยผลักดันคุณค่าและความหายากของบิตคอยน์ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0