ตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มตึงเครียดมากขึ้น หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุน โดย *ทรัมป์* ได้จุดชนวนความตึงเครียดนี้เพิ่มขึ้นด้วยการประกาศนโยบายกำแพงภาษีระดับโลกพร้อมคำกล่าวว่า “*ผู้ที่ครองทองคือผู้ที่กำหนดกฎ*”
หลังถ้อยแถลงของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ผ่าน Truth Social เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งขึ้นทันที 1.5% ภายในวันเดียว โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ *3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์* ขณะเดียวกัน *บิตคอยน์(BTC)* ก็ทะยานขึ้น 4% ปรับตัวมาที่ระดับ *87,500 ดอลลาร์* ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในช่วงหลายสัปดาห์ เรียกความตื่นเต้นจากนักลงทุนทั่วโลก
นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า ท่าทีของทรัมป์อาจเป็นการตอบโต้ต่อการที่ *จีน* เดินหน้าซื้อทองคำในปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 จีนได้ซื้อทองไปแล้วกว่า *50 ตัน* แสดงถึงความพยายามลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ ขณะที่ Crypto Rover นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง เสนอความเห็นว่า *สหรัฐฯ ควรขายทองคำที่ถืออยู่และหันมาซื้อบิตคอยน์แทน*
ท่ามกลางกระแสความเคลื่อนไหวของ *ทองคำ* และ *คริปโต* ค่าเงิน *ดอลลาร์สหรัฐ* กลับดำดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนัก ความวิตกเพิ่มขึ้นจากข่าวลือว่า *ทรัมป์* อาจเตรียมปลด *เจอโรม พาวเวลล์* ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ซึ่งเป็นหนึ่งในชนวนสำคัญที่ส่งผลให้เกิดแรงขายดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง
ความเปลี่ยนแปลงนี้ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของ *บิตคอยน์(BTC)* อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อดอลลาร์อ่อน บิตคอยน์มักอ่อนตาม แต่ครั้งนี้กลับเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกับทองคำ สะท้อนภาพของการเป็น ‘*สินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว*’ มากยิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์นิรนามนามว่า Zerohedge ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมราคานี้ เป็นสัญญาณของ *"การปรับโครงสร้างระบบการซื้อขายของบิตคอยน์"*
ณ ขณะนี้ *บิตคอยน์(BTC)* ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ *87,470 ดอลลาร์* เพิ่มขึ้นเกือบ 3% ภายในวันเดียว ขณะที่มูลค่าตลาดรวมแตะระดับ *1.73 ล้านล้านดอลลาร์* เป็นอีกครั้งที่ *สกุลเงินดิจิทัล* ตอกย้ำบทบาทในเวทีเศรษฐกิจโลกในยามวิกฤต.
ความคิดเห็น 0