เซอร์เคิล ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์จากริปเปิล(XRP) และกำลังเดินหน้าวางแผนเสนอขายหุ้น IPO ที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามรายงานล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 (เวลาท้องถิ่น) การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของเซอร์เคิลต่อสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่กำลังพัฒนา และการเติบโตของความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน
ตามเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อวันที่ 1 เมษายน เซอร์เคิลยื่นแบบฟอร์ม S-1 เตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก(NYSE) ภายใต้สัญลักษณ์ ‘CRCL’ โดยมีธนาคารเจพีมอร์แกน เชส และซิตี้กรุ๊ป เป็นผู้จัดการจัดจำหน่าย การเสนอขายหุ้น IPO มีกำหนดภายในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยตั้งเป้ามูลค่าระดมทุนไว้ที่ 4-5 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม จอห์น อี. ดิตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ให้ความเห็นว่าหากสภาวะตลาดและกรอบกำกับดูแลยังคงพัฒนาไปในทิศทางบวก เซอร์เคิลอาจแตะมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมในปี 2022 ที่บริษัทพยายามใช้วิธี SPAC เพื่อเข้าสู่ตลาด
ในฝั่งของริปเปิล ข้อเสนอซื้อกิจการอาจไม่ใช่เพียงเพื่อผลกำไรจากการถือครองเท่านั้น แต่สะท้อนถึงกลยุทธ์การแข่งขันในตลาด คริปโต เอริ หนึ่งในนักวิเคราะห์ชื่อดัง แสดงความคิดเห็นว่า หากริปเปิลสามารถควบรวมเซอร์เคิลได้ จะทำให้บริษัทถือครองเหรียญ USDC ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์อันดับสองรองจากเทเธอร์(USDT) ได้ทันที ช่วยเพิ่มอิทธิพลในตลาดสเตเบิลคอยน์และลดการแข่งขันจากบริษัทขนาดเล็กลง
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทั้งในภาคธุรกิจและภาครัฐ กรอบกฎหมายคริปโตในสหรัฐก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางอย่างเห็นได้ชัดหลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ โดยกฎหมาย STABLE GENIUS เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่วางโครงสร้างควบคุมการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ โดยหากบริษัทผู้ออกเหรียญมีทรัพย์สินรวมต่ำกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ ในขณะที่บริษัทที่มีทรัพย์สินสูงกว่านั้น จะอยู่ภายใต้การกำกับของภาครัฐกลาง
ดิตันระบุว่า ความชัดเจนของนโยบาย กำลังทางการเมือง และความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนความเป็นไปได้ที่เซอร์เคิลจะบรรลุเป้าหมาย IPO มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ การที่เซอร์เคิลปฏิเสธข้อเสนอจากริปเปิล ยังแสดงถึงความเชื่อมั่นในมูลค่าระยะยาวของตัวบริษัทอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0