Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อินโฟไฟ(InfoFi) เปลี่ยน 'ความสนใจ' เป็นสินทรัพย์ สร้างโมเดลรางวัลใหม่บน Web3

โมเดล ‘อินโฟไฟ(InfoFi)’ กำลังได้รับความสนใจในฐานะโครงสร้างการให้รางวัลรูปแบบใหม่ในระบบนิเวศ Web3 ที่ ‘ความสนใจ’ กลายมาเป็น ‘สินทรัพย์’ ล่าสุด ไทเกอร์รีเสิร์ช(Tiger Research) รายงานว่า อินโฟไฟใช้โครงสร้างการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งสามารถ ‘แปลงกิจกรรมของผู้ใช้เป็นคะแนน’ และเชื่อมโยงกับรางวัลในรูปแบบโทเคน จนนำไปสู่โอกาสของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่องการกระจุกตัวของคอนเทนต์และคุณภาพที่ด้อยลง ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการปรับปรุงโครงสร้างเชิงระบบโดยด่วน

รายงานของไทเกอร์รีเสิร์ชอธิบายว่า โมเดลนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อ ‘โครงสร้างตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยความสนใจ’ ของตลาดคริปโต ที่ซึ่งสภาพคล่องและมูลค่ามักถูกกำหนดจากระดับความสนใจของตลาดที่มีต่อโปรเจกต์ต่าง ๆ นั่นทำให้ ‘ความสนใจของผู้ใช้งาน’ กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่า อินโฟไฟจึงพัฒนาโครงสร้างที่วัดผลความสนใจนี้ให้กลายเป็นตัวเลขที่ชัดเจน และให้รางวัลโดยตรงกับผู้สร้างคอนเทนต์ ซึ่งถือเป็น ‘การนิยามใหม่ทางเศรษฐกิจ’ ต่อกิจกรรมการผลิตข้อมูล

หนึ่งในตัวอย่างสำคัญของโมเดลดังกล่าวคือ ไคโต(Kaito) ที่นำระบบอินโฟไฟมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ โดยกิจกรรมของผู้ใช้จะถูกประเมินด้วยอัลกอริธึม AI ให้เป็น ‘คะแนน’ ซึ่งพิจารณาจากระดับความสนใจ หากคอนเทนต์ได้รับคะแนนสูงก็จะได้รับรางวัลเป็นโทเคนมากขึ้น ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็สามารถใช้คะแนนเหล่านี้เป็นดัชนีชี้วัดในกระบวนการตัดสินใจลงทุน ทำให้เกิดระบบแบบหมุนเวียน ที่ ‘การมีส่วนร่วม’ และ ‘รางวัลตอบแทน’ เชื่อมโยงกันตลอดเวลา

โครงสร้างนี้มีความหมายสำคัญสามประการ ได้แก่ หนึ่ง, ช่วยแปลงการประเมินคุณค่าทางอัตวิสัยของผู้ใช้ให้กลายเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ สอง, สามารถทำให้แนวคิดเชิงนามธรรมอย่าง ‘ความสนใจ’ กลายเป็นข้อมูลดิจิทัลที่นำไปต่อยอดทางเศรษฐกิจได้ และสาม, ก่อให้เกิดโอกาสใหม่ในการขยายความหลากหลายของผู้เข้าร่วมผ่านการ ‘ลดกำแพงในการผลิตคอนเทนต์’

อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงจากระบบอินโฟไฟก็ไม่อาจมองข้าม รายงานของไทเกอร์รีเสิร์ชระบุว่า การวัดผลรางวัลจาก ‘ความสนใจเพียงอย่างเดียว’ กลายเป็นดาบสองคม เนื่องจากเนื้อหาที่เร้าอารมณ์, ซ้ำซาก และสร้างขึ้นเพื่อเรียกคะแนน กลายเป็นกระแสหลัก ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า ‘AI Slop Content’ หรือการแพร่กระจายของคอนเทนต์ไร้คุณภาพ

โปรเจกต์ ‘ลาวด์(Loud)’ ถือเป็นกรณีศึกษาที่เด่นชัด โดยในช่วงหนึ่งให้รางวัลเฉพาะผู้ใช้ระดับบนเท่านั้น ทำให้เกิดการแข่งกันอย่างดุเดือด ซ้ำเติมความเหนื่อยล้าทางคอนเทนต์ และทำลายสมดุลในชุมชน

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่อง ‘การกระจุกตัวของคอนเทนต์และรางวัล’ ตามข้อมูลจากไคโต พบว่าช่วงหนึ่ง คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับลาวด์ครองสัดส่วนมากกว่า 70% ของสื่อโซเชียลในวงการคริปโต ซึ่งสะท้อนการครอบงำของทุนการตลาดจากกลุ่มโปรเจกต์บางราย และสร้างผลลบต่อความหลากหลายรวมถึงสุขภาพของระบบนิเวศโดยรวม

ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาจึงอยู่ที่ ‘วิธีการประเมินคอนเทนต์’ และ ‘การกระจายรางวัล’ ว่าจะทำอย่างไรให้สะท้อนคุณค่าที่แท้จริงอย่างรอบด้าน ไทเกอร์รีเสิร์ชระบุว่า ขณะนี้หลายแพลตฟอร์มยังพึ่งพาเพียงตัวชี้วัดพื้นฐานอย่างยอดชม, คอมเมนต์ หรือ ‘ถูกใจ’ ซึ่งไม่สามารถสะท้อนคุณภาพเชิงลึกได้ และเสนอให้ใช้ ‘อัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน’ พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์

อีกข้อเสนอหนึ่งคือการพัฒนา ‘กลไกที่ปรับสมดุลรางวัลแบบเรียลไทม์’ ที่สามารถเบรกคอนเทนต์จำนวนมากจากหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง และยกระดับการให้รางวัลกับหัวข้อที่ถูกมองข้าม เพื่อรักษาความหลากหลายของข้อมูลในระบบ

ในที่สุด ไทเกอร์รีเสิร์ชสรุปว่า อินโฟไฟคือหนึ่งในการทดลองสำคัญยุคเศรษฐกิจข้อมูล ที่พยายามยกระดับ ‘ความสนใจ’ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ทางเศรษฐกิจ โดยเปิดโอกาสใหม่ให้กับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในตลาดคริปโต อย่างไรก็ดี การทำให้โครงสร้างนี้ยั่งยืนได้ในระยะยาว จำเป็นต้องมีระบบการประเมินที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการวางกลยุทธ์กลไกส่วนร่วมที่รอบคอบยิ่งกว่าเดิม และสุดท้าย จะต้องสามารถบรรจุ ‘คุณภาพของข้อมูล’ และ ‘ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต’ ไว้ในระบบรางวัลด้วย เพื่อให้ ‘ความสนใจ’ กลายเป็นสินทรัพย์ที่แท้จริงในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1