*บิตคอยน์(BTC)* อาจกำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ หลังนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง เอโด ฟารินา(EDO FARINA) ออกโรงเตือนว่าราคาบิตคอยน์ในขณะนี้เข้าสู่ภาวะ *ร้อนแรงเกินไป* และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเผชิญกับการปรับฐานรุนแรง โดยอาจร่วงลงมากถึง 80% ในระยะสั้น แม้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์จะพุ่งขึ้น 3.3% ไปแตะระดับ 108,161 ดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านบาท) แต่ฟารินามองว่ายังมีความเสี่ยงสำคัญที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ
ฟารินาวิเคราะห์ว่า ความเชื่อมั่นเชิงบวกหลังชัยชนะของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งล่าสุด ยังคงไม่เชื่อมโยงกับ *พื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง* โดยแม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอลงมาที่ระดับ 2.4% แต่การคาดการณ์ GDP ปี 2025 กลับถูกปรับลดลงมาอยู่ที่เพียง 1.8% ขณะที่อัตราการว่างงานในเดือนมิถุนายนก็ขยับขึ้นเป็น 4.1% ซึ่งฟารินาเชื่อว่า เงื่อนไขเช่นนี้ไม่สามารถรองรับราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้น 29.9% ในไตรมาส 2 และราคาที่เพิ่มอีก 1% เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้
เขายังเปรียบเทียบกับแนวโน้มในอดีตว่า บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้น 304.1% ในปี 2020 และอีก 59.6% ในปี 2021 แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับไม่เอื้อต่อ *การเก็งกำไร* ขนาดใหญ่แบบนั้นอีกต่อไป เขาย้ำชัดว่า “ราคาปัจจุบันไม่ใช่ *จุดเข้าซื้อที่ปลอดภัย* สำหรับนักลงทุนระยะยาว”
หนึ่งในประเด็นที่ฟารินาให้ความสำคัญอย่างมากคือ *พฤติกรรมของวาฬคริปโต* โดยเขาเผยว่าเจ้าของบิตคอยน์ในยุคซาโตชิ ซึ่งถือครองเหรียญมาตั้งแต่เริ่มต้น กำลังทยอยเปิดสถานะขายในช่วงราคาประมาณ 110,000 ดอลลาร์ (ราว 1.52 ล้านบาท) ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา บิตคอยน์ทะลุระดับ 111,662 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.55 ล้านบาท) ได้เพียงวันเดียว ก่อนร่วงลงทันที 4% เช่นเดียวกับในวันที่ 10 มิถุนายนและ 3 กรกฎาคม ที่เกิดการปรับฐานอย่างรวดเร็วหลังแตะระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขายจากวาฬอาจกำลัง *ฉุดรั้งทิศทางขาขึ้นของตลาด*
อีกปัจจัยที่ผู้เชี่ยวชาญรายนี้มองว่าเป็นสัญญาณเตือนคือ *ปริมาณการซื้อขายที่ลดลง* โดยฟารินาชี้ว่า ในตลาดขณะนี้ไม่มีการไหลเข้าของนักลงทุนรายย่อยมากนัก ขณะที่ราคาบิตคอยน์ยังถูกพยุงไว้ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่ไม่กี่รายเท่านั้น โครงสร้างแบบนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เพราะหากเกิดแรงขายกะทันหัน อาจทำให้ความสามารถในการดูดซับแรงเทขายต่ำมาก และเกิด *ความผันผวนรุนแรง* อย่างควบคุมไม่ได้
นอกจากนี้ เขายังเตือนถึงโอกาสเกิด *เหตุการณ์แบล็กสวอน* ซึ่งอาจปั่นป่วนตลาดแบบไม่ทันตั้งตัว โดยหากเกิดความไม่แน่นอนหรือเหตุการณ์ภายนอกที่คาดไม่ถึง ราคาบิตคอยน์อาจดิ่งลงฉับพลันจนหลายฝ่ายไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ทัน ฟารินาสรุปว่า การพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ในเวลานี้อยู่บนพื้นฐานของ *ความคาดหวังที่ปราศจากหลักฐานรองรับ* พร้อมเรียกร้องให้นักลงทุนทุกคนเพิ่มระดับการเฝ้าระวังให้รอบด้าน
คำถามใหญ่ของตลาดในเวลานี้คือ บิตคอยน์จะสามารถ *ฝ่าต้าน 110,000 ดอลลาร์* ได้ต่อไป หรือจะถอยกลับลงมา ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่าแนวโน้มปัจจุบันคือ *กลางของขาขึ้น* หรือกำลัง *เข้าใกล้จุดสูงสุดก่อนการปรับฐาน* การเคลื่อนไหวต่อจากนี้จะกลายเป็นบททดสอบที่สำคัญต่อ “ความแข็งแกร่งของตลาดคริปโต” โดยรวม
ความคิดเห็น 0