กระแสการสะสมอีเธอเรียม(ETH)ของ ‘วาฬ’ กำลังทวีความรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มวาฬระดับสูงหรือที่เรียกว่า ‘เมกะวาฬ’ มีการเพิ่มการถือครองครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนกลับไปแตะระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนตลาดกระทิงปี 2022 อีกครั้ง กระแสดังกล่าวยิ่งสร้างความคาดหวังในตลาด เมื่อเทคนิคัลวิเคราะห์บางฉบับคาดว่า ราคาของอีเธอเรียมอาจพุ่งแตะระดับ 3,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.72 ล้านบาท) ได้ภายในเดือนสิงหาคม
ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน Glassnode เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จำนวนรวมของเหรียญอีเธอเรียมที่อยู่ในกระเป๋าวาฬที่ถือครองมากกว่า 10,000 เหรียญ มีจำนวนทั้งสิ้น 41.06 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นถึง *9.31%* จากจุดต่ำสุดที่ระดับ 37.56 ล้านเหรียญในเดือนตุลาคม 2024 ตัวเลขนี้ถือเป็นปริมาณการถือครองที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งสามารถตีความได้ว่าเป็น ‘สัญญาณสะสมระยะกลางถึงระยะยาว’ ที่สะท้อนแนวโน้มขาขึ้น
*ความคิดเห็น*: การสะสมของกลุ่มวาฬระดับบนในภาวะที่ราคายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึง ‘ความมั่นใจ’ ของนักลงทุนทุนหนา ว่า ETH ยังมีศักยภาพในการปรับตัวขึ้นอีกในอนาคต
สิ่งที่น่าสนใจคือ ความเร็วในการสะสมของกลุ่มวาฬรอบนี้ *เร็วกว่าช่วงกลางปี 2022* ซึ่งเป็นช่วงที่ ETH พุ่งขึ้นเกือบ 95% ก่อนที่ตลาดจะได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของ FTX นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มแสดงให้เห็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกับตลาดกระทิงในอดีต
ทิศทางของราคายังสอดรับกับ ‘รูปแบบทางเทคนิค’ ที่เรียกว่า *Bull Pennant* ที่กำลังก่อตัวขึ้นในกราฟของอีเธอเรียม หากรูปแบบนี้สมบูรณ์และเกิดการเบรกเอาต์เหนือแนวต้าน ราคามีโอกาสทะลุระดับ 3,400 ดอลลาร์ ซึ่งนั่นอาจหมายถึง *ศักยภาพกำไรจำนวนมาก* สำหรับกลุ่มวาฬที่เข้าสะสมก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อตลาดก็มีมากมาย ตั้งแต่โมเมนตัมการฟื้นตัวของบิตคอยน์(BTC), ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างคริปโตกับตลาดหุ้น สถานการณ์เหล่านี้ล้วนช่วยหนุนให้กลุ่มวาฬมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของอีเธอเรียมในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0