บริษัทรีมิกซ์พอยต์(Remixpoint) ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากญี่ปุ่น เริ่มเดินหน้าการลงทุนในบิตคอยน์(BTC) อย่างจริงจัง โดยประกาศเป้าหมายการถือครองบิตคอยน์จำนวนประมาณ 3,000 BTC ในระยะสั้น พร้อมระดมทุนรวมราว 298,900 ล้านวอน (ประมาณ 215 ล้านดอลลาร์) เพื่อนำมาใช้สำหรับการซื้อบิตคอยน์โดยเฉพาะ ทั้งนี้แผนการดังกล่าวสะท้อนถึงจุดยืนของรีมิกซ์พอยต์ในการนำคริปโตมาเป็นทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ขององค์กร
การตัดสินใจลงทุนในครั้งนี้ได้รับการอนุมัติเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการบริษัท ซึ่งให้เหตุผลว่า มุมมองต่อศักยภาพในระยะยาวของบิตคอยน์กำลังแข็งแกร่งขึ้น โดยมีความเห็นร่วมกันว่าการเพิ่มคริปโตเข้าพอร์ตจะช่วยยกระดับมูลค่าบริษัทในแง่ของความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน สำหรับแผนการซื้อเพิ่มเติมหลังจากการซื้อชุดแรกจะพิจารณาจากราคาเฉลี่ย 3 วันของราคาหุ้นของบริษัท ยืนยันโดยรีมิกซ์พอยต์ว่า "เราเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างโอกาสกับความปลอดภัย ความท้าทายกับความประมาท" และขอแรงสนับสนุนจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากรีมิกซ์พอยต์เปิดเผยว่า จะจ่ายเงินเดือนให้แก่ประธานและซีอีโอ ทาคาฮาชิ โยชิฮิโกะ เป็นบิตคอยน์ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นรายแรกที่ดำเนินการเช่นนี้ โดยมุ่งเน้นการสร้างแรงจูงใจระหว่างค่าตอบแทนผู้บริหารกับผลลัพธ์จากการลงทุนในคริปโต บริษัทให้เหตุผลว่า การที่เงินเดือนผู้บริหารผูกกับบิตคอยน์จะทำให้ซีอีโอรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของมูลค่าที่นักลงทุนได้ลงทุนไว้ แทนการซื้อหุ้นคืนซึ่งถูกจำกัดจากกฎระเบียบตลาดหุ้น
กลยุทธ์การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นแกนหลักในการบริหารของรีมิกซ์พอยต์ สอดคล้องกับแนวโน้มใหม่ในแวดวงธุรกิจญี่ปุ่น บริษัทชื่อดังอย่าง กูมิ(Gumi), แวลูครีเอชัน(Value Creation), เมตาแพลนเนต(Metaplanet) และเอสบีซี เมดิคอล(SBC Medical) ต่างปรับพอร์ตลงทุนใส่บิตคอยน์เช่นเดียวกัน
ขณะที่ในต่างประเทศ บริษัทจดทะเบียนในตลาดแนสแดคอย่าง เซมเลอร์ ไซเอนทิฟิก(Semler Scientific) จากสหรัฐฯ ก็แสดงจุดยืนชัดเจนในการถือครองบิตคอยน์ โดยเพิ่งซื้อเพิ่มอีก 187 BTC ที่ราคาเฉลี่ย 106,906 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ส่งผลให้ถือครองรวมแล้ว 4,636 BTC คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 6.97 แสนล้านวอน (ประมาณ 520 ล้านดอลลาร์) โดยได้กำไรจากการถือครองประมาณ 100.1 พันล้านวอน (ราว 72 ล้านดอลลาร์)
ในช่วงที่หลายบริษัททั่วโลกเริ่มหันมามองคริปโตเป็นสินทรัพย์องค์กร รีมิกซ์พอยต์จึงนับเป็นกรณีตัวอย่างของบริษัทญี่ปุ่นที่พร้อมฝ่าด่านข้อจำกัดเชิงระบบและแนวคิดแบบดั้งเดิม การจับตาว่าตลาดและราคาบิตคอยน์จะส่งผลอย่างไรต่อทิศทางและราคาหุ้นของรีมิกซ์พอยต์ต่อจากนี้ จึงเป็น ‘คำ’ ที่ผู้ลงทุนไม่ควรมองข้าม
ความคิดเห็น 0