คริสโตเฟอร์ เพอร์กินส์(Cristopher Perkins) ประธานของคอยน์ฟันด์(CoinFund) แสดงมุมมองว่า ‘โทเคนที่มีสินทรัพย์ในโลกจริงรองรับ (RWA)’ จะมีบทบาทสำคัญในการเปิดประตูสู่ตลาดสินทรัพย์ที่เคยอยู่ไกลเกินเอื้อมของนักลงทุนรายย่อยในอดีต โดยเขาเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงนี้กับการเกิดขึ้นของกองทุน ETF ในปี 1993 ซึ่งได้จุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการลงทุน
ในบทสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้กับ Cointelegraph เพอร์กินส์กล่าวว่าเขา “*เชื่อว่าโทเคนจะกลายเป็น ETF รูปแบบใหม่*” โดย RWA โทเคนสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงในระดับโลก ลดช่องว่างของข้อมูล และทลายกำแพงที่เคยจำกัดไม่ให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงหุ้นนอกตลาด (private equity) ภายใต้ข้อกำหนดคุณสมบัตินักลงทุน (Accredited Investor Laws) ที่ซับซ้อน
เพอร์กินส์เน้นว่า “*คนธรรมดาส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงตลาดนอกตลาดหลักทรัพย์ได้ เพราะมันเป็นโครงสร้างที่ปิดกั้นมาแต่ต้น*” โดยอ้างถึงข้อมูลจากแบล็คร็อก(BlackRock) ที่ระบุว่า *บริษัทในสหรัฐฯ ที่มีรายได้ต่อปีเกิน 100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.39 แสนล้านวอน มีถึง 81% ที่ยังคงเป็นบริษัทนอกตลาด* หมายความว่า บริษัทนวัตกรรมจำนวนมากยังไม่ได้เข้าตลาด และนักลงทุนทั่วไปก็ไม่สามารถลงทุนในบริษัทเหล่านั้นได้
ภายใต้บริบทนี้ RWA โทเคนจึงถูกมองว่าอาจเป็น ‘*เกมเปลี่ยน*’ แบบเดียวกับที่ ETF เคยทำไว้ เพราะไม่เพียงแค่เปิดทางให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงสินทรัพย์ได้โดยไม่ต้องผ่านระบบแบบเดิมที่มีข้อจำกัด แต่ยังเพิ่ม *สภาพคล่องและความโปร่งใสในการซื้อขาย* ซึ่งอาจนำไปสู่ระเบียบใหม่ของตลาดทั้งสำหรับสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในอนาคต
*ความคิดเห็น:* การเปรียบเทียบ RWA โทเคนกับ ETF ถือเป็นมุมมองที่น่าสนใจ เพราะแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เพียงเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุน แต่ยังมีศักยภาพในการเปลี่ยนวิธีการทำงานของตลาดในระดับโครงสร้างอีกด้วย
ความคิดเห็น 0