ราคาของโดจ์คอยน์(DOGE) ร่วงลงมากถึง 15% ภายในสัปดาห์เดียว ส่งผลให้ *นักลงทุนรายใหญ่อย่างวาฬ* หลายรายเริ่มเข้าซื้อเพิ่มในปริมาณมหาศาล อ้างอิงจากการวิเคราะห์ออนเชนโดยอาลี มาร์ติเนซ เมื่อวันที่ 24 พบว่ากระเป๋าเงินที่ถือระหว่าง 10 ล้านถึง 1 พันล้าน DOGE ได้ทำการ *ซื้อสุทธิ* ราว 130 ล้าน DOGE คิดเป็นมูลค่าประมาณ 378.3 ล้านบาท การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการใช้จังหวะราคาย่อตัวเพื่อ *สะสมในราคาต่ำ* โดยมีแนวโน้มว่ากลุ่มนักลงทุนเหล่านี้กำลังจับตาการฟื้นตัวและกำหนดจุดเข้าใหม่ในตลาด
ในเชิงภาพกราฟ ราคาของโดจ์คอยน์กำลังแสดงสัญญาณการกลับตัวผ่านโครงสร้าง *‘ดับเบิลบอตทอม’* ซึ่งเกิดขึ้นจากจุดต่ำสองจุดที่เกิดเมื่อวันที่ 25 และ 29 ตามความเห็นของเทรดเดอร์ชื่อทาดิ เกรด โดยมีแนวต้านร่วมที่ระดับ 0.2435 ดอลลาร์ (ประมาณ 339 บาท) หากสามารถทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ มีโอกาสที่ราคาจะวิ่งต่อไปถึงระดับ 0.27 ดอลลาร์ (ประมาณ 375 บาท) อย่างไรก็ตาม หากหลุดระดับ 0.22 ดอลลาร์ (306 บาท) การตีความรูปแบบนี้อาจไม่สามารถใช้งานได้
ในอีกมุมของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ดัชนี RSI บนกราฟรายชั่วโมงได้ลดต่ำกว่าระดับ 30 ซึ่งเป็น *ระดับ oversold* หรือภาวะขายมากเกินไป ติดต่อกันถึง 17 ชั่วโมง ควบคู่กับราคาที่ปรับตัวลงใกล้ 10% ภายในช่วงเวลาดังกล่าว RSI ในระดับต่ำขนาดนี้มักถูกตีความว่าอาจเกิดการรีบาวด์ระยะสั้นจากนักเก็งกำไร และกำลังดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน
นอกจากนี้ ข้อมูลจากแพลตฟอร์มบล็อกเชน *Glassnode* ยังระบุว่าจำนวน *ที่อยู่ผู้ใช้งานที่เคลื่อนไหว* บนเครือข่ายของโดจ์คอยน์ก็เพิ่มขึ้นจาก 108.5 ล้านรายการในเดือนก่อน มาเป็น 109.14 ล้านรายการในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของ *การขยายฐานผู้ใช้งาน* แม้ราคาจะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม
แม้ว่าโดจ์คอยน์จะยังเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘มีมคอยน์(Meme Coin)’ แต่การที่ *ข้อมูลออนเชนและการวิเคราะห์ทางเทคนิค* ส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกัน ทำให้ความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้นสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว หากการสะสมจากวาฬและข้อมูลเชิงบวกจากเครือข่ายยังดำเนินต่อไป ความเป็นไปได้ของ *การรีบาวด์หรือเปลี่ยนแนวโน้ม* ในช่วงต่อไปก็ไม่สามารถมองข้ามได้
ความคิดเห็น 0