สเตลลาร์(XLM) กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนในตลาดคริปโต หลังราคาพุ่งขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนหลักมาจากความเชื่อมโยงกับริปเปิล(XRP) และการคลี่คลายของความเสี่ยงเดิม ส่งผลให้สเตลลาร์ได้รับการประเมินว่ามีฐานการเติบโตที่มั่นคงมากขึ้น
ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ราคาสเตลลาร์ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาพุ่งขึ้นถึง 16% ปัจจุบันอยู่ที่ 0.4594 ดอลลาร์ หรือประมาณ 639 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 10.87% โดยแรงส่งของราคาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากริปเปิลได้รับ ‘ชัยชนะบางส่วน’ จากการสู้คดีกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ซึ่งช่วยให้มีความชัดเจนด้านกฎระเบียบมากขึ้น สำหรับสเตลลาร์ซึ่งมีระบบการโอนเงินข้ามประเทศคล้ายกับริปเปิล จึง ‘ได้รับประโยชน์โดยตรง’
ผู้เชี่ยวชาญในวงการชี้ว่า หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของสเตลลาร์คือ ‘ไม่มีภาระทางกฎหมายเหมือนกับ XRP’ ในขณะที่ริปเปิลกลายเป็นบรรทัดฐานด้านการตีความกฎของ SEC ทำให้สเตลลาร์สามารถใช้โอกาสนี้วางตำแหน่งที่ดีกว่าในตลาดสหรัฐ นอกจากนี้ มี ‘ความคิดเห็น’ ว่าสถาบันการเงินอาจหันมาสนใจการใช้งานฟีเจอร์โอนเงินข้ามพรมแดนของสเตลลาร์เพิ่มขึ้น
ด้านเทคนิค สัญญาณบวกยืนยันแนวโน้มขาขึ้น โดยมูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้น 239.16% ทะลุ 1.06 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.47 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนี RSI อยู่ที่ 62.86 ซึ่งยังอยู่ในพื้นที่ ‘ไม่ถึงระดับซื้อมากเกินไป’ บ่งชี้ว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า สเตลลาร์มีโอกาส ‘ทดสอบแนวต้านที่ 0.50 ดอลลาร์’ หรือราว 696 บาท นอกจากนี้ยังพบรูปแบบ ‘โกลเดนครอส’ ในกราฟ ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่องสำหรับแนวโน้มตลาด
อีกจุดที่น่าสนใจคือ การที่สเตลลาร์เพิ่งถูกรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของวีซาในการรองรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการนำมาใช้งานจริงในระยะยาว ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ นี้ได้กระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น
ในภาพรวม การปรับตัวขึ้นของสเตลลาร์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากแค่แรงซื้อระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง ‘คุณค่าระดับโครงสร้าง’ ที่กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง ขณะที่ตลาดต่างจับตาว่า สเตลลาร์จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตได้หรือไม่บนเส้นทางที่ XRP ได้เริ่มไว้แล้ว
ความคิดเห็น 0