Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ศาลเริ่มตัดสินแบ่งบิตคอยน์(BTC) ในคดีหย่า เมื่อคริปโตกลายเป็นสินสมรสทางกฎหมาย

ศาลเริ่มตัดสินแบ่งบิตคอยน์(BTC) ในคดีหย่า เมื่อคริปโตกลายเป็นสินสมรสทางกฎหมาย / Tokenpost

เมื่อสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มแพร่หลายอย่างรวดเร็ว คำถามเรื่องการ ‘แบ่งกระเป๋าเงินดิจิทัล’ ในขั้นตอนการหย่าร้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป โดยเฉพาะประเด็น *จะแบ่งกระเป๋าบิตคอยน์(BTC) อย่างไร* ที่ไม่ใช่แค่ความสงสัยทางเทคนิค แต่กลายเป็นข้อถกเถียงซึ่งต้องตัดสินในชั้นศาลแล้วจริงๆ ทั้งในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่างมีหลักการคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลที่เข้มแข็ง แต่ก็เริ่มยอมรับว่า สกุลเงินดิจิทัลคือ *สินสมรสที่แบ่งได้ตามกฎหมาย* และแน่นอนว่าทำให้เกิดประเด็นใหม่ทางกฎหมาย

หัวใจของการเข้าถึงกระเป๋าคริปโต ไม่ว่าจะเป็นบิตคอยน์, อีเธอเรียม(ETH) หรือเหรียญอื่นๆ อยู่ที่การถือ ‘คีย์ส่วนตัว’ ซึ่งเป็นชุดข้อมูลเพียงหนึ่งเดียว คล้ายรหัสผ่านบัญชีธนาคาร แต่ซับซ้อนยิ่งกว่า การแบ่งคีย์ออกเป็นสองส่วนหรือจัดการอย่างไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การสูญเสียสินทรัพย์อย่างถาวร ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคู่สมรสบางรายที่พยายามเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน โดยเสนอให้แบ่งคีย์กันใช้ ซึ่งสร้างความสับสนอย่างมากทางกฎหมาย

แม้จะดูเหมือนปัญหาที่ยากจะแก้ แต่ฝั่งเทคโนโลยีก็มีทางออก เช่น *เทคนิคแบ่งความลับแบบชามีร์*, กระเป๋าเงินแบบหลายลายเซ็น (Multisig) และสัญญาด้านการดูแลทรัพย์สิน (Custody Agreement) ถือเป็นเครื่องมือที่สามารถรักษาความเป็นเจ้าของร่วมได้โดยไม่ต้องเปิดเผยคีย์ส่วนตัวทั้งหมด ตัวอย่างเช่นกับกระเป๋า Multisig ที่กำหนดว่าการทำธุรกรรมต้องมีการยืนยันจากทั้งสองฝ่าย จึงป้องกันการเบิกถอนโดยพลการได้

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของ *บล็อกเชน* คือความโปร่งใสของบัญชีธุรกรรม แม้ผู้ถือกระเป๋าจะพยายามซ่อนร่องรอย แต่หากมีคำสั่งศาล ปัจจุบันเทคโนโลยีฟอเรนสิกด้านบล็อกเชนสามารถ *ติดตามทรัพย์สินดิจิทัลที่ซ่อนอยู่* ได้จริง ในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ก็มีหลายกรณีที่ศาลใช้บริการบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนในการเปิดเผยกระเป๋าลับ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เปิดช่องให้ผู้เสียหายยื่นฟ้องสิทธิในสินทรัพย์ดิจิทัล

ทุกวันนี้ คริปโตไม่ใช่แค่เงินดิจิทัลที่ล่องลอยอยู่บนอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป แต่คือ *สินทรัพย์ที่มีสถานะในระบบกฎหมาย* ซึ่งกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือครองไว้อย่างชัดเจน แม้ไม่สามารถแบ่งคีย์ส่วนตัวได้โดยตรง แต่ด้วยเทคโนโลยีและกฎหมายที่พัฒนาอยู่ตลอด ก็สามารถจัดการแบ่งสิทธิได้อย่างยุติธรรม

รัฐบาลสหรัฐ โดยเฉพาะในสมัย *ทรัมป์* ก็ได้เริ่มกำกับดูแลด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มข้น ขณะที่เกาหลีใต้เองก็กำลังเร่งยกร่างกฎหมายคริปโตอย่างตั้งใจ เชื่อว่าในอนาคต คริปโตจะเปลี่ยนจากพื้นที่สีเทาทางกฎหมาย สู่พื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นระบบและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1