หลังจากการสิ้นสุดของข้อพิพาททางกฎหมายที่ยาวนานระหว่างคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) กับริปเปิล(XRP) อุตสาหกรรมคริปโตกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของ SEC ที่คาดว่าจะเร่งเดินหน้าสร้าง ‘กรอบกำกับดูแลคริปโตที่ชัดเจน’ อย่างจริงจัง
ตามรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ริปเปิลแลปส์และ SEC ได้ถอนคำอุทธรณ์ในคดีระดับศาลอุทธรณ์ทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งตกลงแบกรับค่าธรรมเนียมทางกฎหมายของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการยุติคดีความที่ลากยาวมานานเกือบ 5 ปีอย่างเป็นทางการ โดยมีเอกสารยืนยันยื่นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 ของสหรัฐฯ
ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายหลังยุติข้อพิพาท เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมาธิการของ SEC แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ว่า การยุติข้อพิพาทครั้งนี้ช่วยให้ผู้ที่มัวแต่จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ทางกฎหมายสามารถหันมาโฟกัสกับ ‘การจัดทำกรอบกำกับดูแลคริปโตที่โปร่งใส’ ได้เสียที
ด้านกรรมาธิการอีกคนอย่าง พอล แอตกินส์(Paul Atkins) ก็สะท้อนความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะย้ายพลังงานจากห้องพิจารณาคดีมาสู่โต๊ะนโยบาย” พร้อมเน้นย้ำว่ากรอบกำกับที่ชัดเจนควร ‘ส่งเสริมนวัตกรรมและปกป้องผู้ลงทุน’ ไปพร้อมกัน
ความคิดเห็นเหล่านี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนท่าทีของ SEC ซึ่งในช่วงรัฐบาลทรัมป์มักถูกวิจารณ์ว่าขาดความชัดเจนด้านจุดยืนต่อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยกรณีการฟ้องร้องริปเปิลถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้เกิดคำถามว่า หน่วยงานกำกับดูแลใช้เกณฑ์ใดในการพิจารณาว่าอะไรคือ ‘หลักทรัพย์’ ในโลกคริปโต
การปิดฉากคดีนี้จึงอาจถูกตีความว่า SEC ตระหนักถึง ‘ความจำเป็นในการสร้างกรอบกำกับดูแลที่เหมาะสมและนำไปปฏิบัติได้จริง’ สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า ท่ามกลางกระแสการจัดระเบียบตลาดคริปโตในหลายประเทศ สหรัฐฯ อาจหันมาใช้แนวทางที่เปิดกว้างมากขึ้นในการสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ โดยไม่ลดระดับการคุ้มครองนักลงทุนลง
*คำสำคัญ*: ริปเปิล(XRP), SEC, กรอบกำกับดูแลคริปโต, Hester Peirce, Paul Atkins
*ความคิดเห็น*: การยุติข้อพิพาทครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้สหรัฐฯ สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมทางการเงินกับกฎระเบียบที่รอบคอบยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0