บิตคอยน์(BTC) กำลังกลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังล่าสุดมูลค่ามิใช้จ่ายล่วงหน้า (Open Interest: OI) บนไบแนนซ์พุ่งขึ้นแตะระดับประมาณ 13.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 19.05 ล้านล้านวอน ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สะท้อนว่า *จิตวิญญาณแห่งการเก็งกำไรกำลังกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง*
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน คริปโตควอนต์ ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของ OI ครั้งนี้ น่าจะมาจากการเปิด ‘สถานะซื้อ(Long Position)’ ใหม่ มากกว่าการปิดสถานะขายเดิม ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนจำนวนมากวางเดิมพันว่าราคาบิตคอยน์จะยังคงสูงขึ้น ข้อควรระวังคือ หาก OI เพิ่มขึ้นเร็วกว่าราคา จะสะท้อนว่าเกิด ‘เลเวอเรจเกินจริง’ ซึ่งอาจนำไปสู่ *แรงขายจากสถานะซื้อที่ถูกบีบให้ปิด(Long Squeeze)* หากราคาหันกลับมาร่วง
ระดับแนวต้านสำคัญที่ตลาดกำลังเฝ้าจับตาขณะนี้อยู่ที่ 119,000 – 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 165.41 – 166.8 ล้านบาท) ซึ่งหากราคาสามารถ *ทะลุแนวต้านนี้ได้อย่างมั่นคง* บิตคอยน์ก็มีโอกาสพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 122,000 – 124,000 ดอลลาร์ (ราว 169.58 – 171.96 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม การทะลุแนวต้านด้วยภาระ OI ที่สูงเช่นนี้ อาจกลายเป็น ‘ดาบสองคม’ เพราะการพุ่งขึ้นที่ไม่มีฐานแน่นอาจกลับตัวดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน หากราคาถูกปฏิเสธไม่สามารถฝ่าแนวต้านนี้ได้ อาจเกิด *แรงเทขายขนานใหญ่จากการชำระบัญชีสถานะ* ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันฝั่งขาลง
ในเชิงสถิติ ขณะนี้ตัวเลข OI ขยับเข้าใกล้สถิติสูงสุดตลอดกาลที่ราว 14 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 19.46 ล้านล้านวอน การขยายตัวของเลเวอเรจเพิ่มเติมจากจุดนี้ คือความเสี่ยงสำคัญต่อความผันผวนของตลาด อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถ *ปิดเหนือระดับ 120,000 ดอลลาร์ได้ โดยไม่มีการเพิ่มขึ้นของ OI อย่างชัดเจน* นั่นอาจบ่งบอกถึงการซื้อจริงจากตลาดสปอต หรือการปิดกำไรจากฝั่งขายที่อยู่ในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้แนวโน้มยังคงแข็งแรงในเชิงโครงสร้าง
ในมุมมองของบริษัทวิเคราะห์ สวิตซ์บล็อก ได้เพิ่มตัวแปรอีกสองประการที่ควรจับตามอง ได้แก่ ‘อัตราการเติบโตของเครือข่าย’ และ ‘สภาพคล่องของตลาด’ โดยปัจจุบันดัชนีด้านเครือข่ายอยู่ในระดับสูงถึง 82 แสดงถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ *สภาพคล่องกลับมีเพียงระดับ 52* ซึ่งหมายถึง ช่องว่างของแรงซื้อมิได้หนุนตาม หากมีเม็ดเงินเพิ่มเข้ามา อาจช่วยดันให้ราคาทำจุดสูงใหม่ได้ต่อ แต่หากสภาพคล่องร่วงต่ำกว่า 40 แม้เครือข่ายจะเติบโตดี ก็อาจหมายถึงตลาดใกล้ถึงจุดสูงสุดรอบใหม่ในระยะสั้นแล้ว
ท้ายที่สุด นักลงทุนในตลาดยังคงจับตาความสัมพันธ์ระหว่าง OI และการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด เพราะ *หากการพุ่งขึ้นของราคามาจากเลเวอเรจมากเกินไป ก็จะย้อนกลับมากลายเป็นแรงกดดันจากการชำระบัญชีในภายหลัง* คำถามที่แท้จริงในเวลานี้คือ บิตคอยน์จะสามารถ *ยืนเหนือระดับ 120,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคงและยาวนานเพียงใด* ซึ่งประเด็นนี้อาจเป็นตัวกำหนดว่าแรงขาขึ้นรอบนี้จะสามารถไปต่อ หรือกำลังใกล้จบลง
ความคิดเห็น 0