บิตคอยน์(BTC) พุ่งอย่างร้อนแรงในช่วงวันพุธที่ผ่านมา โดยทะลุระดับ 113,900 ดอลลาร์ หรือราว 15.78 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงแรงดีดกลับอย่างแข็งแกร่ง นักวิเคราะห์ในตลาดกำลังจับตาระดับแนวต้านสำคัญที่ *117,500 ดอลลาร์* (ประมาณ 16.31 ล้านบาท) ซึ่งอาจเป็นจุดที่แรงขายเริ่มหนาแน่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กระแสการเข้าซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่กำลังหนุนให้มีมุมมองเชิงบวกว่าหลังการปรับฐานระยะสั้นแล้ว บิตคอยน์อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้
ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสเตรทิจี(MSTR) ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ระบุว่า การซื้อสะสมบิตคอยน์ผ่านกองทุน ETF ประเภทสปอตของสถาบัน และการนำบิตคอยน์มาใช้งานจริงโดยภาคธุรกิจเป็นสองปัจจัยสำคัญที่อาจผลักดันบิตคอยน์ให้เกิดปรากฏการณ์แรลลี่อีกครั้งในช่วงปลายปี “ความคิดเห็น” นี้สะท้อนว่าความเชื่อมั่นฝั่งซื้อยังคงเป็นแกนหลักในจิตวิทยาตลาด ณ ขณะนี้
ด้านบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนชื่อดังอย่าง Glassnode ยังเผยในรายงานประจำสัปดาห์ว่า บิตคอยน์อาจทุบสถิติราคาสูงสุดตลอดกาลได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รายงานยังเตือนว่า วงจรราคาของบิตคอยน์กำลังเข้าสู่ช่วงปลาย ซึ่งอาจตามมาด้วยแรงเหวี่ยงที่เพิ่มขึ้น โดยพวกเขาเปรียบเทียบช่วงเวลาปัจจุบันกับปลายรอบขาขึ้นในปี 2015–2018 และ 2018–2022 และชี้ว่าในรอบก่อนหน้า ราคาบิตคอยน์ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 2–3 เดือนหลังจากแตะจุดต่ำสุดเพื่อไปถึงจุดสูงสุดครั้งใหม่
ในอีกด้านหนึ่ง เหรียญอัลต์คอยน์ชื่อดังหลายตัวก็เริ่มพยายามฟื้นตัวในตลาด แม้ว่าโดยรวมแล้วแรงขายกลับยังคงแรงในทุกจังหวะที่ราคาฟื้น อย่างไรก็ดี มีนักวิเคราะห์บางรายประเมินว่า *ไบแนนซ์คอยน์(BNB)* และ *อวาแลนช์(AVAX)* มีแนวโน้มกลับเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในรายของอวาแลนช์ที่ได้รับแรงหนุนจากกระแสความสนใจในด้านดิฟายและเกมบนบล็อกเชน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0