Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ออปชันบิตคอยน์มาแรง! นักลงทุนแห่ปรับกลยุทธ์เฮดจ์ หลังความผันผวนตลาดพุ่งกว่า 40%

ออปชันบิตคอยน์มาแรง! นักลงทุนแห่ปรับกลยุทธ์เฮดจ์ หลังความผันผวนตลาดพุ่งกว่า 40% / Tokenpost

แหล่งวิจัยจากไคโค(Kaiko Research)เผยว่า ความผันผวนที่กลับมารุนแรงในตลาดคริปโตส่งผลให้ ‘กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง’ ของนักลงทุนเริ่มปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการขยายบทบาทของ ‘ออปชัน’ ซึ่งอาจเบียด ‘ฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุ’ ที่เคยครองตลาดได้ในไม่ช้า

ตลาดคริปโตมีชื่อเสียงในเรื่องของความผันผวนมาโดยตลอด โดยเฉพาะในกรณีของ บิตคอยน์(BTC) ซึ่งเหตุการณ์ราคาร่วงอย่างเฉียบพลันเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้ ‘ความผันผวนที่เกิดขึ้นจริง (Realized Volatility)’ พุ่งทะลุ 40% ในรายงานของไคโคระบุว่า การเคลื่อนไหวที่รุนแรงดังกล่าว ทำให้ตลาดเริ่มมองหาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงใหม่อีกครั้ง โดยแม้ ‘ฟิวเจอร์สไร้วันหมดอายุ’ จะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุด แต่ก็เริ่มถูกตั้งคำถามถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง และความเสี่ยงเชิงระบบที่ซ่อนอยู่

จากข้อมูล พบว่า สัญญาฟิวเจอร์สไม่มีวันหมดอายุในตลาดคริปโตคิดเป็นสัดส่วนถึง 68% ของการซื้อขายทั้งหมด โดยเพียงในวันเดียวกันนั้น บนแพลตฟอร์ม Bybit มูลค่าการซื้อขายฟิวเจอร์สบิตคอยน์พุ่งจาก 1,500 ล้านดอลลาร์ เป็นกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ‘อัตราเงินทุน’ (Funding Rate) กลับกลายเป็นลบ สะท้อนแรงกดดันอย่างหนักจากฝั่งชอร์ต อย่างไรก็ดี สถานการณ์เช่นนี้กลับเพิ่มโอกาสให้เกิด ‘การลดเลเวอเรจอัตโนมัติ’ (Auto-Deleveraging) ซึ่งอาจทำให้แม้แต่สถานะที่กำลังทำกำไรก็ถูกบังคับปิดสถานะได้

ไคโคประเมินว่า นี่คือจุดที่ ‘ฟิวเจอร์ส’ อาจไม่เพียงพอในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนเริ่มหันมาสนใจ ‘ออปชัน’ ที่ให้ความยืดหยุ่นและซับซ้อนมากกว่า โดยข้อมูลระบุว่า หลังการร่วงของราคาในวันที่ 10 ตุลาคม มูลค่าการซื้อขาย ‘ออปชันบิตคอยน์’ เพิ่มขึ้น มีการทำสัญญาพูต(Put Option) ที่ระดับราคาไม่เกิน 80,000 ดอลลาร์ มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านดอลลาร์ และตลอด 2 สัปดาห์หลังจากนั้น เกิดการสะสมออปชันที่ระดับไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์ มูลค่ารวมทะลุ 3,000 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่า ออปชันกำลังกลายเป็น ‘เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงใหม่’ ที่นักเทรดให้ความสำคัญมากขึ้น

รายงานยังวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วยว่า แนวโน้มนี้อาจไม่ใช่แค่การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบเฉียบพลัน แต่เป็นไปได้ว่า ‘กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงในระยะยาว’ กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยแม้ ‘ออปชัน’ จะมีความซับซ้อนและไม่เอื้อต่อการเข้าถึงของนักลงทุนรายย่อย แต่กลับสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาดที่ผันผวนรุนแรงได้ดีกว่า ในทางกลับกัน ‘ฟิวเจอร์ส’ แม้จะใช้งานง่าย แต่มีข้อจำกัดเรื่องเลเวอเรจและความเสี่ยงจากระบบ

อย่างไรก็ตาม รายงานของไคโคชี้ว่า ความเหมาะสมของการเลือกใช้เครื่องมือเฮดจ์นั้น แปรผันตามระดับการเปิดรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล โดยกล่าวเสริมว่า “ฟิวเจอร์สอาจโดดเด่นในเรื่องสภาพคล่องและความเรียบง่าย แต่ ‘ออปชัน’ สามารถปกป้องจากความเสี่ยงในสถานการณ์สุดขั้ว (Tail Risk) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า”

ในช่วงที่ตลาดคริปโตพัฒนาสู่ระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นักลงทุนจำเป็นต้องเริ่มเรียนรู้และวางกลยุทธ์ที่ใช้ทั้งฟิวเจอร์สและออปชันควบคู่กันอย่างชาญฉลาด เพื่อจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1