เอไอเปลี่ยนโฉมการตรวจสอบสมาร์ตคอนแทรกต์ แทนที่การตรวจสอบแบบดั้งเดิมด้วยระบบความปลอดภัยที่ยั่งยืนซึ่งกำลังกลายเป็น *มาตรฐานใหม่* ของตลาดในโลก Web3
การตรวจสอบโดยใช้เอไอที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ กำลังทำหน้าที่แทนรายงานกระดาษแบบเดิม ด้วย *ความสามารถในการตอบสนองแบบเรียลไทม์* และครอบคลุมช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวาง ในโลก Web3 ที่มีคุณสมบัติ ‘กระจายศูนย์’ และ ‘สามารถรวมกันได้อย่างไร้ขอบเขต’ การพึ่งพาการตรวจสอบแบบเดิมเพียงครั้งเดียวนั้นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้มีแนวคิดใหม่ว่า การตรวจสอบสมาร์ตคอนแทรกต์ควรถูกมองว่าเป็น *ความสามารถในการดำเนินงาน* มากกว่ากระบวนการหนึ่งครั้งจบ
ที่ผ่านมา การตรวจสอบโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นก่อนการเปิดตัวโปรเจกต์ และมักไม่สามารถจับจุดเปราะบางทางเศรษฐศาสตร์ได้อย่างเต็มที่ ปัจจัยอย่างความผันผวนของสภาพคล่อง เทคนิคการโจมตีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน และพลวัตของค่าธรรมเนียมก๊าซ เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา *ในแบบเรียลไทม์และผ่านการจำลองสถานการณ์* อย่างละเอียด แต่ข้อจำกัดด้านเวลา งบประมาณ และโฟกัสที่มักจะเน้นเฉพาะจุดบกพร่องที่รู้จัก ทำให้การตรวจสอบแบบเดิมมักพลาดความเสี่ยงใหม่ๆ ได้ง่าย
เอไอกำลังถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็น *กุญแจสำคัญ* ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ แม้ว่าในตอนนี้เอไอยังอาจขาดความสามารถบางประการในการรองรับความซับซ้อนและความไวต่อเวลาในโค้ดของสมาร์ตคอนแทรกต์ แต่เมื่อฐานข้อมูลและฟีดแบ็กเพิ่มขึ้น ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพระหว่างเอไอกับมนุษย์ก็จะค่อยๆ จางลง โดยเฉพาะถ้าโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ถูกรวมเข้ากับฟังก์ชันย้อนรอย เครื่องมือเสริม และข้อมูลจากการจำลองต่างๆ ระดับของการ ‘อัตโนมัติ’ ในการตรวจสอบก็จะสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
การตรวจสอบด้วยเอไอสามารถแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ เริ่มต้นจากการให้โมเดลตรวจจับเจตนาในโค้ดและหาช่องโหว่ จากนั้น ระบบเอเยนต์อัตโนมัติจะทำหน้าที่เสริม เช่น วิเคราะห์ความเสี่ยงจาก Dependency, เฝ้าระวังบนเมนเน็ต และจำลองการโจมตีทางเลือก สุดท้าย ระบบจะตั้งเกณฑ์เพื่อวัดคุณภาพของการตรวจสอบ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็น *หลักประกันความน่าเชื่อถือ* ให้กับบริษัทประกันภัยและแพลตฟอร์มเทรดได้
สุดท้ายแล้ว แม้แต่โมเดลเอไอแบบ *ทั่วไป* ก็มีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในวงกว้าง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นมาแล้วในสาขาอื่นๆ ด้วยขีดความสามารถในการจำข้อมูล, เข้าใจบริบทขนาดใหญ่ และเชื่อมโยง API ต่างๆ ทำให้ AI ทั่วไปสามารถวิเคราะห์ตรรกะของสมาร์ตคอนแทรกต์ วางแผนการโจมตี และสร้างยุทธศาสตร์รับมือได้ในขั้นตอนเดียว
โลกของ Web3 เป็นระบบที่รวมเอาความ ‘ไม่เปลี่ยนแปลง’, ‘ความสามารถในการประกอบกัน’, และ ‘สภาวะแวดล้อมที่เป็นศัตรู’ เข้าไว้ด้วยกัน การเฝ้าระวังความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจึงไม่อาจพึ่งพาเพียงรายงานการตรวจสอบในอดีตได้อีกต่อไป แต่ *ต้องใช้ระบบความปลอดภัยซึ่งขับเคลื่อนด้วยเอไอและเครื่องมือที่ปรับตัวได้ต่อเนื่อง* เพราะการตรวจสอบในยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่ผลลัพธ์ แต่คือ *ผลิตภัณฑ์* ที่ต้องทำงานแบบมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือตรวจสอบที่ทำงานบนสภาพแวดล้อม CI, ระบบจับตา mempool เพื่อตรวจหาการโจมตีล่วงหน้า หรือแบบจำลองเศรษฐศาสตร์เพื่อตรวจหาความเสี่ยงในการถูกลวงใช้
*ความคิดเห็น*: ตอนนี้ตลาดเริ่มเปลี่ยนมามองการตรวจสอบด้วยเอไอว่าไม่ใช่เช็กลิสต์ แต่เป็น *ความสามารถที่ต้องมี* เพื่อยืนหยัดในโลก Web3 ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว – และทิศทางของวงการกำลังก้าวไปในทางนั้นอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0