สภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐโอคลาโฮมาผ่านร่างกฎหมายการสำรองบิตคอยน์(BTC) ส่งผลให้โอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่บางรัฐในสหรัฐฯ กลับปฏิเสธร่างกฎหมายลักษณะเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐโอคลาโฮมาได้ผ่าน ‘ร่างกฎหมายการสำรองบิตคอยน์ (HB 1203)’ ด้วยคะแนนเสียง 12 ต่อ 2 ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้จะมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัฐสามารถลงทุนเงินทุนสาธารณะในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดเกิน 500,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 720 ล้านล้านวอน) ปัจจุบันมีเพียง ‘บิตคอยน์’ เท่านั้นที่ตรงตามเกณฑ์นี้ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้ลงทุนในสเตเบิลคอยน์เพื่อความมั่นคงทางการเงินด้วย
โคดี เมย์นาร์ด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เสนอร่างกฎหมายนี้ระบุว่า “บิตคอยน์เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพทางการเงินที่ไม่ถูกแทรกแซงจากรัฐบาล” พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้กองทุนสาธารณะบางส่วนเพื่อลงทุนในบิตคอยน์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม ในห้ารัฐ ได้แก่ มอนทานา, นอร์ทดาโคตา, เพนซิลเวเนีย, เซาท์ดาโคตา และไวโอมิง ร่างกฎหมายลักษณะเดียวกันกลับถูกปฏิเสธหรือถูกระงับ สตีเวน เคลลี สมาชิกสภานิติบัญญัติของมอนทานาให้ความเห็นว่า “การใช้เงินภาษีของประชาชนจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ” และเตือนว่าการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีนั้นยังคงมีความผันผวนสูงและมีความเสี่ยง
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการถือครองบิตคอยน์ในระดับรัฐยังคงแตกต่างกัน นักวิเคราะห์บางคนกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการรวมศูนย์ ขณะที่บางฝ่ายมองว่านี่เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างอำนาจอธิปไตยทางการเงิน ท่ามกลางความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของบิตคอยน์ในระดับมหภาคและการกำหนดนโยบาย จึงน่าจับตามองว่ารัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ จะปรับทิศทางนโยบายอย่างไรต่อไป
ความคิดเห็น 0