Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สตรีม ไฟแนนซ์ล่ม! เสี่ยงกระทบ DeFi วงกว้าง มูลค่าหนี้พุ่งกว่า 284 ล้านดอลลาร์

สตรีม ไฟแนนซ์ล่ม! เสี่ยงกระทบ DeFi วงกว้าง มูลค่าหนี้พุ่งกว่า 284 ล้านดอลลาร์ / Tokenpost

การล่มสลายของโปรโตคอลการเงินแบบกระจายศูนย์ ‘สตรีม ไฟแนนซ์(Stream Finance)’ ทำให้เกิด *หนี้สินและความเสี่ยงจากสเตเบิลคอยน์รวมมูลค่าราว 284.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* (หรือประมาณ 2,849 ล้านบาท) ส่งผลให้หลากหลายแพลตฟอร์ม DeFi ต้องเผชิญกับความเสี่ยงแบบลูกโซ่ในวงกว้าง

กลุ่มวิเคราะห์ DeFi อย่าง Yields and More (YAM) ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 (เวลาท้องถิ่น) ผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) โดยระบุข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดการให้กู้ยืมและคลังสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสตรีม ไฟแนนซ์ ซึ่งพบว่าแพลตฟอร์ม DeFi ชั้นนำหลายแห่ง มีการถือครองสินทรัพย์สังเคราะห์ที่ออกโดยสตรีม เช่น xUSD, xBTC และ xETH อาทิ ออยเลอร์(Euler), ไซโล(Silo), มอร์โฟ(Morpho) และเกียร์บ็อกซ์(Gearbox)

นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดเฉพาะสินทรัพย์ของสตรีมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโทเคนจากแพลตฟอร์มอื่นที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น deUSD ของเอลิกเซอร์(Elixir) หรือ scUSD ของทรีฟ(Treeve) ซึ่งเชื่อมโยงกันในรูปแบบตราสารอนุพันธ์ สร้างภาระหนี้สินที่ยังไม่ได้ชำระรวมกว่า 284.9 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ จำนวนดังกล่าว *ยังไม่รวมถึงคลังสินทรัพย์ทุติยภูมิหรือกลยุทธ์กู้ยืมอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงทางอ้อม*

ในรายงานระบุชื่อของฝ่ายที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศนี้ ไม่ว่าจะเป็น TelosC, Elixir, MEV Capital, Varlamore และ Re7 Labs ซึ่งมีความเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับการบริหารสินทรัพย์ที่มีความเชื่อมโยงกับสตรีม ไฟแนนซ์ โดย TelosC มี *ความเสี่ยงต่อการขาดทุนเป็นมูลค่าประมาณ 123 ล้านดอลลาร์* ขณะที่ Elixir มีการปล่อยกู้ให้สตรีมเป็นมูลค่า 68 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น *65% ของหลักประกันสเตเบิลคอยน์ทั้งหมดของสตรีม*

กรณีของสตรีม ไฟแนนซ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง *ปัญหาเชิงโครงสร้างของ DeFi* ซึ่งมักเกิดจากการบริหารจัดการสินทรัพย์แบบแยกส่วนและการเชื่อมโยงระหว่างแพลตฟอร์มอย่างซับซ้อน ความซับซ้อนของสเตเบิลคอยน์และการนำไปใช้งานข้ามโปรโตคอล อาจทำให้ *ปัญหาในระบบใดระบบหนึ่งสามารถแพร่กระจายเป็นความเสี่ยงทั้ง ecosystem ได้โดยง่าย*

*ความคิดเห็น*: นักลงทุนและผู้พัฒนาโปรเจกต์ DeFi ควรให้ความสำคัญกับแนวทางการบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวมมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิด “โดมิโนเอฟเฟกต์” จากการล่มของโปรโตคอลใดโปรโตคอลหนึ่งในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

หุ้นไซเฟอร์ ไมน์นิ่งพุ่ง 32% หลังจับมือ AWS ลุยโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 1.97 แสนล้าน

วาฬ Hyperunit ทุ่ม 5,500 ล้านดอลลาร์ 'Long' บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) เชื่อแนวโน้มตลาดกลับตัว

นักลงทุนรายย่อยหายจากตลาด บิตคอยน์(BTC) เผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญหลัง ETF เปิดตัว

ทาร์อิมมูนระดมทุน 395 ล้านดอลลาร์ รุกแค็นตอนคอยน์(CC) ตั้งเป้าเป็นผู้นำคริปโตสายไบโอเทค

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1