มารา โฮลดิงส์(MARA) ผู้ให้บริการขุดบิตคอยน์(BTC) ประกาศเดินหน้ารุกตลาดโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์(AI) อย่างจริงจัง หลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา ซึ่งทำสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อวันที่ 26 (เวลาท้องถิ่น) มาราได้เปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 โดยระบุว่า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI และการประมวลผลสมรรถนะสูง(HPC) จะเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัท โดยทางมาราเน้นว่า “เป้าหมายของเราคือการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่สำหรับการขุดบิตคอยน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประมวลผล AI ด้วย” ซึ่งแนวทางนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ของซิสโก้(Cisco) ที่เติบโตจากการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายในช่วงที่อินเทอร์เน็ตกำลังขยายตัว
มาราระบุว่าบริษัทได้เฝ้าสังเกตตลาด AI อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มตัว โดยย้ำว่า “ในระลอกแรก หลายบริษัทเร่งเข้าแข่งขันอย่างรวดเร็ว แต่เราเลือกที่จะรอดูทิศทางตลาดก่อน แล้วจึงเข้ามาเมื่อโอกาสเหมาะสม ซึ่งเราเชื่อว่าจะสร้างโอกาสที่ดีกว่า” นอกจากนี้ บริษัทยังคาดการณ์ว่าความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI จะสูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านการ ‘อนุมาน (inferencing)’ แทนที่จะเป็นเพียงการ ‘ฝึกอบรม (training)’ โมเดล AI เท่านั้น
จากกลยุทธ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ มาราทำรายได้ไตรมาสที่ 4 ที่ระดับ 214.4 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ของตลาด (183.9 ล้านดอลลาร์) ถึง 16.5% นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรสุทธิ 528.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 248% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 794.4 ล้านดอลลาร์ เติบโต 207%
บริษัทมียอดถือครองบิตคอยน์ที่ 44,893 BTC ณ สิ้นปี 2024 กลายเป็นองค์กรที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy) โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 มาราได้ขุดเพิ่มอีก 2,492 BTC และซื้อเพิ่มอีก 14,574 BTC ด้วยเงินสดและจากการระดมทุนผ่านหุ้นกู้แปลงสภาพแบบไม่มีดอกเบี้ย
ทั้งนี้ มารายังเพิ่มกำลังการขุด (hashrate) ขึ้น 115% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 53.2 เอกซาแฮชต่อวินาที(EH/s) พร้อมทั้งเดินเครื่องศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก(micro data center) กำลังไฟฟ้า 25 เมกะวัตต์(MW) ในเท็กซัสและนอร์ทดาโคตา เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานแบบเดิม จากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง ราคาหุ้นของมาราในช่วงซื้อขายนอกเวลาทำการพุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 13.18 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยที่ 12.89 ดอลลาร์
ความคิดเห็น 0