ไนจีเรียเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ตัวที่สอง สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงิน
หลังจากสเตเบิลคอยน์ตัวแรก ‘cNGN’ เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุด ‘โปรสเปราเวสต์(ProsperaVest)’ ได้เปิดตัว ‘eNSC’ สินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ที่มีการตรึงมูลค่าแบบ 1:1 กับไนรา(NGN) และสามารถทำงานร่วมกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางไนจีเรีย (CBDC) ที่ชื่อ ‘eไนรา’ ได้ โปรสเปราเวสต์ระบุว่า eNSC จะช่วยขยายโอกาสทางการเงินและเปิดทางให้บล็อกเชนสามารถเข้ามาเสริมระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเปิดตัว eNSC คาดว่าจะช่วยเร่งการเติบโตของตลาดสเตเบิลคอยน์ในไนจีเรีย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาด้านกฎระเบียบที่ต้องจับตามอง เพราะ eNSC ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ไนจีเรีย(SEC) ซึ่งทำให้สถานะทางกฎหมายของเหรียญยังไม่มีความชัดเจน ปัจจุบันบนเว็บไซต์ทางการของโปรสเปราเวสต์ก็ยังมีคำเตือนว่า eNSC ไม่ได้รับการรับรองจาก SEC
ในขณะเดียวกัน สเตเบิลคอยน์รุ่นพี่อย่าง cNGN ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธนาคารและบริษัทฟินเทคในไนจีเรีย ได้รับการจดทะเบียนในสองแพลตฟอร์มซื้อขาย ได้แก่ 'บูชา' และ 'ควิแดกซ์' อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้งานยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยจนถึงวันที่ 5 มีนาคม มีผู้ถือครองเพียง 64 คน และมีเพียง 70 ธุรกรรมที่ดำเนินการบนบล็อกเชน ซึ่งถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับอัตราการรับรู้สินทรัพย์ดิจิทัลในไนจีเรียที่สูงถึง 90% และปริมาณการซื้อขายคริปโตที่ติดอันดับ 2 ของโลก
โปรสเปราเวสต์คาดว่า eNSC จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า cNGN โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ถือครองสามารถใช้สินทรัพย์นี้เพื่อลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และพันธบัตรรัฐบาลผ่านระบบโทเคนไรซ์ ซึ่งช่วยให้เกิดแหล่งรายได้ที่เสถียรมากขึ้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเมืองลากอสของไนจีเรียได้เริ่มโครงการใหม่โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อกำจัดโรคมาลาเรีย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยมีอัตราการติดเชื้อกว่า 900,000 รายต่อปี และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 600,000 ราย ทางการลากอสได้ร่วมมือกับ ‘ไมชา เมด(Maisha Meds)’ แพลตฟอร์มเฮลธ์เทคจากไนโรบี ประเทศเคนยา เพื่อเปิดตัวระบบแจ้งเตือนการติดเชื้อมาลาเรียแบบเรียลไทม์ ระบบดังกล่าวจะช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลที่แม่นยำขึ้น ลดความผิดพลาดในการวินิจฉัย และปรับปรุงกระบวนการรักษาผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ดิจิทัล
ทั้งนี้ ทิศทางของการผนึกกำลังระหว่างเทคโนโลยีบล็อกเชนและภาคการแพทย์ในไนจีเรียยังคงเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและบริษัทที่เกี่ยวข้องในอนาคต
ความคิดเห็น 0