ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่เกี่ยวข้องกับการ ‘สำรองบิตคอยน์(BTC) อย่างมียุทธศาสตร์’ และการสร้าง ‘คลังสินทรัพย์ดิจิทัล’ ของสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรมคริปโต ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการประชุมเชิงนโยบายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทำเนียบขาว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งผลต่อแนวทางกำกับดูแลบิตคอยน์ภายในประเทศ
แมตต์ โฮแกน(Matt Hougan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบิทไวส์(Bitwise) กล่าวว่า "นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์" พร้อมเสริมว่า "โอกาสที่สหรัฐฯ จะออกมาตรการแบนบิตคอยน์ลดลงอย่างมาก" นอกจากนี้ เขามองว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ชาติอื่นเริ่มสะสมบิตคอยน์ตามอย่างสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของบิตคอยน์จากอุปทานที่ลดลงในตลาด
ในขณะเดียวกัน เนธาน แม็คคอเลย์(Nathan McCauley) ผู้ร่วมก่อตั้งแองเคอเรจ ดิจิทัล(Anchorage Digital) มองว่า "นี่ไม่ใช่แค่การยอมรับในระดับอุตสาหกรรมคริปโตเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ ต้องการเป็นผู้นำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก"
อย่างไรก็ตาม บางส่วนยังคงตั้งข้อสงสัยต่อแนวทางนี้ ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดส์(Charles Edwards) ผู้ก่อตั้งแคปริโอล อินเวสต์เมนท์(Capriole Investment) แสดงความเห็นว่า "การสะสมบิตคอยน์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างผลกระทบที่แท้จริงต่อระบบการเงินได้" และชี้ว่า "หากรัฐบาลไม่ได้ประกาศแผนเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม คำสั่งดังกล่าวอาจไม่มีผลจริงจังต่อราคาและตลาด"
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวเป็นอำนาจบริหารที่ไม่จำเป็นต้องผ่านการอนุมัติของรัฐสภา ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายต่อไป อีกทั้งรัฐบาลยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณบิตคอยน์ที่ถือครองและแนวทางการใช้งาน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ประกาศนี้อาจเป็นเพียงปฏิกิริยาระยะสั้นของตลาด
อุตสาหกรรมคริปโตจะยังคงติดตามผลกระทบในระยะยาวของนโยบายดังกล่าว รวมถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมของรัฐบาลเกี่ยวกับการซื้อและถือครองบิตคอยน์
ความคิดเห็น 0