ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศให้รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าสะสม ‘บิตคอยน์(BTC)’ ในฐานะสินทรัพย์กลยุทธ์ ส่งผลให้ตลาดคริปโตเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง
เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งบริหารให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ถือครองบิตคอยน์ โดยเน้นให้เป็น ‘สินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์’ ลักษณะคล้ายกับการถือครองทองคำของประเทศ มาตรการนี้สะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า บิตคอยน์สามารถเป็นเสาหลักในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและป้องกันความเสี่ยงในระดับมหภาคได้
อย่างไรก็ตาม ทันทีหลังการประกาศ บิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะ 92,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ร่วงลงเหลือ 84,000 ดอลลาร์ เนื่องจากเทรดเดอร์บางส่วนเทขายทำกำไร ความผันผวนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตโดยรวม อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) และ ริปเปิล(XRP) ปรับตัวลดลง 1-6% ขณะที่กลุ่มเหรียญมีมก็เข้าสู่ภาวะขาลงเช่นกัน
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมมองว่า แม้มาตรการของทรัมป์อาจส่งผลบวกต่อคริปโตในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจเพิ่มความไม่แน่นอนของนโยบายและความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ อีกทั้ง นักลงทุนยังจับตา ‘นโยบายคริปโต’ ในการประชุมทำเนียบขาวซึ่งจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ เพื่อดูทิศทางที่แน่ชัดของกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
แม้บางฝ่ายจะกังวลว่าการเข้ามาถือครองบิตคอยน์ของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อหลักการกระจายอำนาจของสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ก็มีนักลงทุนสถาบันบางกลุ่มที่เชื่อมั่นว่าการเคลื่อนไหวนี้คือก้าวสำคัญในการยกระดับบิตคอยน์ให้เป็น ‘สินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในระบบการเงินหลัก’
ตลาดคริปโตกำลังจับตาดูท่าทีของรัฐบาลทรัมป์และการตอบสนองจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ซึ่งอาจสร้างช่วงเวลาผันผวนให้นักลงทุนต้องเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นต่อไป
ความคิดเห็น 0