รัฐบาลไนจีเรียผลักดันเก็บภาษีคริปโต แต่ผู้เชี่ยวชาญมองอาจไม่ได้ผลตามคาด
รัฐบาลไนจีเรียได้ออกมาตรการเก็บภาษีจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเพื่อกระตุ้นรายได้ของรัฐ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากปัจจัยด้านโครงสร้างตลาดและพฤติกรรมของผู้ใช้งาน
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 รัฐบาลไนจีเรียได้ยื่นฟ้อง ไบแนนซ์ มูลค่า 81,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท) ฐานเลี่ยงภาษี และต่อมาได้ดำเนินการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมคริปโตเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการจัดเก็บภาษีเหล่านี้อาจเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ
นิค พัคคริน(Nic Puckrin) ผู้ก่อตั้ง The Coin Bureau กล่าวว่า “ไนจีเรียมีตลาดซื้อขายแบบ P2P ที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา เนื่องจากสกุลเงินไนรา(NGN) มีความผันผวนสูง ประชาชนจึงหันมาใช้คริปโตเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งทำให้การเก็บภาษีจากธุรกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องยาก”
ไนจีเรียถือเป็นประเทศที่มีอัตราการถือครองคริปโตสูงที่สุดในแอฟริกา โดยมีประชากรราว 22% หรือประมาณ 47 ล้านคนที่ใช้หรือถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล รัฐบาลได้พยายามควบคุมตลาดโดยออกกฎให้คริปโตเป็นหลักทรัพย์ในปี 2022 และประกาศนโยบายบล็อกเชนเพื่อบูรณาการเข้ากับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในปีต่อมา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าปัญหาคอร์รัปชันและขาดความต่อเนื่องของนโยบายอาจทำให้การเก็บภาษีไม่มีประสิทธิภาพ แม็กซิม ซาฮารอฟ(Maksym Sakharov) ผู้ร่วมก่อตั้ง WeFi กล่าวว่า “รัฐบาลไนจีเรียมองว่าคริปโตเป็นแหล่งรายได้ใหม่ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีนโยบายเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ล้มเหลวในการปฏิบัติจริง”
ปัจจุบัน ไนจีเรียมีอัตราส่วนรายได้ภาษีต่อ GDP เพียง 6% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล โดยในปี 2022 กรมสรรพากรกลางของไนจีเรีย(FIRS) สามารถจัดเก็บภาษีได้เพียง 12,700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 370,000 ล้านบาท) จากแรงงานที่จ่ายภาษีอย่างเป็นทางการเพียง 12% ของประชากรวัยทำงาน รัฐบาลจึงตั้งเป้าเก็บภาษีจากธุรกรรมคริปโตในอัตรา 0.5-1% ของกำไรจากการขาย และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเติมปีละ 250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,000 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีที่สูงอาจผลักให้ผู้ใช้งานย้ายไปยังตลาด P2P ที่มีความยืดหยุ่นกว่า พัคครินกล่าวว่า “ผู้ใช้งานคริปโตในไนจีเรียคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมแบบ P2P อยู่แล้ว ซึ่งทำให้พวกเขาง่ายต่อการหลีกเลี่ยงภาษีผ่านช่องทางที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ”
แม้ไนจีเรียจะวางแผนเก็บภาษีคริปโตเพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐ แต่ความสำเร็จของนโยบายดังกล่าวยังขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายและสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาด เช่นเดียวกับที่อินเดียใช้เทคโนโลยีของ Chainalysis ในการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมบนบล็อกเชน นักวิเคราะห์มองว่าหากไนจีเรียต้องการเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพ จะต้องพัฒนาระบบกำกับดูแลที่โปร่งใสและได้รับความร่วมมือจากผู้เล่นในอุตสาหกรรม
ความคิดเห็น 0