รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าแนวทางการจัดตั้ง ‘ทุนสำรองคริปโต’ ในระดับประเทศ ขณะที่รัฐยูทาห์ได้ปรับแก้ไขร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องและผ่านการอนุมัติในสภาแล้ว แต่ได้ตัดส่วนของ ‘การลงทุนในบิตคอยน์(BTC)’ ออกไปในขั้นตอนสุดท้าย ตามรายงานของ CoinPost เมื่อวันที่ 8 (เวลาท้องถิ่น) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจของรัฐยูทาห์ในการละเว้นการใช้บิตคอยน์ในฐานะเครื่องมือบริหารทุนสำรองของรัฐ
สาเหตุสำคัญของการปรับแก้กฎหมายดังกล่าวมาจากความกังวลของกลุ่มสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ยึดแนวทาง ‘อนุรักษ์นิยมทางการเงิน’ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง ‘ความผันผวนสูง’ ของบิตคอยน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ ดังนั้น กองทุนสำรองของรัฐยูทาห์จึงถูกปรับไปเป็นโครงสร้างที่ใช้สกุลเงินทั่วไปแทนการอ้างอิงสินทรัพย์ดิจิทัล
แม้ว่ายูทาห์จะถอยจากแผนการใช้บิตคอยน์ แต่รัฐอื่นๆ ในสหรัฐฯ กลับมีท่าทีตรงกันข้าม เช่น รัฐเท็กซัสและรัฐแอริโซนา ซึ่งกำลังผลักดันร่างกฎหมายเพื่อให้มีการลงทุนในบิตคอยน์เป็นทรัพย์สินของภาครัฐ ขณะเดียวกัน ในระดับรัฐบาลกลาง ยังมีแนวคิดที่ผลักดันโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เกี่ยวกับ ‘ทุนสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์’ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นถกเถียงและอาจมีผลต่อการกำหนดนโยบายของรัฐบาลรัฐต่างๆ ในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตมองว่าการปรับแก้กฎหมายของยูทาห์ครั้งนี้เป็นเพียงการชะลอเท่านั้น และแนวโน้มระยะยาวยังคงเอื้อต่อการผนวกสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาอยู่ในโครงสร้างบริหารงบประมาณของรัฐ นักวิเคราะห์บล็อกเชนให้ความเห็นว่า "ยูทาห์เลือกที่จะระมัดระวังในตอนนี้ แต่เมื่อรัฐอื่นๆ เริ่มนำบิตคอยน์มาใช้ ก็อาจมีการรื้อฟื้นการพิจารณานโยบายอีกครั้ง"
ความคิดเห็น 0