หากพรรคเสรีนิยมของแคนาดาคว้าชัยในการเลือกตั้งทั่วไป แนวทางของประเทศต่อสกุลเงินดิจิทัลอาจมีความระมัดระวังมากกว่าสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ
มาร์ก คาร์นีย์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเสรีนิยม มีท่าทีที่ค่อนข้างแข็งกร้าวต่อคริปโตในอดีต ทำให้หลายฝ่ายจับตานโยบายของเขาอย่างใกล้ชิด ในปี 2018 ขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ เขาเคยระบุว่า ‘บิตคอยน์(BTC)’ ไม่สามารถถือเป็น ‘แหล่งเก็บมูลค่าที่เชื่อถือได้’ และไม่สามารถทำหน้าที่เป็นเงินในรูปแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนการกำกับดูแล ‘สเตเบิลคอยน์ภาคเอกชน’ อย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันก็เห็นด้วยกับแนวคิดการใช้ ‘สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง(CBDC)’
อย่างไรก็ตาม ในแผนเศรษฐกิจสำหรับการเลือกตั้งปี 2025 คาร์นีย์ได้ประกาศเป้าหมายในการทำให้แคนาดาเป็นผู้นำด้าน ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI), เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมดิจิทัล’ ซึ่งหมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายของเขากับอุตสาหกรรมคริปโตอาจไม่ถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์ กระแสความสนใจจึงพุ่งไปที่รูปแบบการกำกับดูแลด้านสินทรัพย์ดิจิทัลหลังการเลือกตั้ง
คาร์นีย์เคยให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg โดยกล่าวว่า “คริปโตที่ดีที่สุดจะไปอยู่บนแพลตฟอร์มที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด” ซึ่งสะท้อนท่าทีสนับสนุนการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง แม้ว่าเขาเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการบิดเบือนตลาดในโลกของคริปโต แต่ก็ยอมรับว่านวัตกรรมจากเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจมีประโยชน์ต่อระบบการเงิน โดยเฉพาะด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน
คาร์นีย์อาจต้องเผชิญหน้ากับ ปิแอร์ ปัวลิเยฟ ผู้นำพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน ปัวลิเยฟเคยประกาศวิสัยทัศน์ว่า “ต้องการให้แคนาดาเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีบล็อกเชน” โดยมองว่าคริปโตเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ประชาชนมีอำนาจควบคุมอนาคตทางการเงินของตนได้มากขึ้น แนวทางเชิงตลาดของเขาจึงแตกต่างจากท่าทีที่ระมัดระวังของคาร์นีย์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ‘คริปโต’ อาจไม่ได้เป็นประเด็นหลักของการเลือกตั้งครั้งนี้ มอร์วา โรฮานี เลขาธิการสภาเว็บ3ของแคนาดา ให้ความเห็นว่า “ประชาชนส่วนใหญ่ในแคนาดายังไม่มีความสนใจหรือยังคงมีมุมมองที่สงสัยต่อสกุลเงินดิจิทัล” พร้อมระบุว่าวาระสำคัญของการเลือกตั้งน่าจะเป็นเรื่อง ‘ที่อยู่อาศัย, อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายด้านแรงงานข้ามชาติ’ มากกว่า
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เคยกำหนดอัตราภาษีศุลกากรต่อประเทศคู่ค้า รวมถึงแคนาดา ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจตึงเครียดมากขึ้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นโยบายของคาร์นีย์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินชัยชนะของเขาในการเลือกตั้งครั้งนี้
ความคิดเห็น 0