ตลาดบิตคอยน์(BTC) ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนอย่างมาก หลังจากที่บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 19 มกราคม ราคาก็ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งลดลงมาถึงระดับ 77,000 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ การปรับฐานครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นผลมาจากการปรับสมดุลของตลาด หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ชัยชนะของ ‘ทรัมป์’ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ แรงขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่ม ‘วาฬ’ และนักลงทุนสถาบันซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในช่วงสะสมสินทรัพย์ ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาอ่อนตัวลง
ตามข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ออนเชน ‘แซนติเมนท์(Santiment)’ ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 8 มีนาคม บิตคอยน์จำนวน 22,702 BTC เคลื่อนย้ายจากกระเป๋าเงินของนักลงทุนไปยังแพลตฟอร์มซื้อขาย ซึ่งเป็นสัญญาณที่มักบ่งชี้ว่าแรงขายกำลังเพิ่มขึ้น และอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าความผันผวนของตลาดจะรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ากลุ่มวาฬบางส่วนเริ่มกลับเข้าซื้อบิตคอยน์อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม จนมีการวิเคราะห์ว่าตลาดกำลังสร้างฐานราคาใหม่ ทั้งนี้ จากแนวโน้มในอดีต การซื้อเข้าของนักลงทุนรายใหญ่ในช่วงตลาดขาลงอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าถึงการกลับตัวของตลาด
บรรยากาศในตลาดยังคงถูกครอบงำโดยแนวโน้มเชิงลบ ความเห็นบนโซเชียลมีเดียที่คาดการณ์ว่าบิตคอยน์จะร่วงต่ำกว่าระดับ 69,000 ดอลลาร์มีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีน้ำหนักมากกว่าความเห็นในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ในหลายกรณีที่ตลาดเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งอย่างสุดขั้ว มักเป็นช่วงที่เกิดการกลับตัวของราคา ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนบางรายมองว่าใกล้ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของบิตคอยน์
ขณะที่ตลาดอัลท์คอยน์ก็ได้รับผลกระทบหนัก อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ลดลงประมาณ 29% และ 40% ตามลำดับ ในขณะที่เหรียญสายมีกระแสอย่างโดชคอยน์(DOGE) และเปเป้(PEPE) ก็ร่วงลงไป 38-39% อย่างไรก็ตาม ความผันผวนที่รุนแรงเป็นเรื่องปกติของตลาดคริปโต ซึ่งมักตามมาด้วยการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนบางรายจึงยังคงมองว่าตลาดมีโอกาสฟื้นตัวในระยะยาว
นอกจากนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคยังคงส่งผลให้ตลาดขาดความแน่นอน นโยบายภาษีศุลกากรที่เข้มงวดขึ้นของ ‘ทรัมป์’ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากข้อพิพาททางการค้ากระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน และอาจทำให้หลายฝ่ายเลือกที่จะชะลอการลงทุนจนกว่าสถานการณ์จะมีความแน่นอนมากขึ้น จากการวิเคราะห์ของแซนติเมนท์ “การกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ของนักลงทุนรายใหญ่ และภาวะความกลัวที่แพร่กระจายไปทั่วตลาด อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บิตคอยน์กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในอนาคต” พร้อมแนะนำให้นักลงทุนคำนึงถึงความผันผวนในระยะสั้น แต่ยังเปิดโอกาสไปสู่การฟื้นตัวในช่วงกลางถึงระยะยาว
ความคิดเห็น 0