แฟรงคลิน เทมเพิลตัน(Franklin Templeton) ได้ยื่นเอกสารแบบฟอร์ม S-1 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เพื่อขออนุมัติเปิดตัวกองทุน ETF สำหรับริปเปิล(XRP) นี่เป็นขั้นตอนต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียน "แฟรงคลิน XRP ทรัสต์" ในรัฐเดลาแวร์เมื่อปีที่แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นระหว่างบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ต้องการเปิดตัวกองทุน XRP ETF หลังจากที่ตลาดได้รับอนุมัติให้เปิดตัวกองทุน ETF สำหรับบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH)
ขณะนี้ SEC กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขออนุมัติ ETF สกุลเงินดิจิทัลประเภท Spot รวมถึงคำร้องของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน ซึ่งถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อบริษัทที่รอการอนุมัติร่วมกับบิตไวส์(Bitwise), 21Shares, คานารี่ แคปิตอล(Canary Capital), เกรย์สเกล(Grayscale) และวิสดอมทรี(WisdomTree) โดยกองทุน ETF ของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน ถูกกำหนดให้เปิดตัวในตลาด CBOE BZX และจะใช้บริการของคอยน์เบส คัสโตดี(Coinbase Custody) เป็นผู้ดูแลสินทรัพย์ XRP ขณะที่คอยน์เบสจะทำหน้าที่เป็นนายหน้าหลักในการซื้อขาย ทั้งนี้ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนจะถูกคำนวณอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน CME CF XRP-ดอลลาร์
การเปิดตัว ETF สำหรับ XRP กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ขณะที่ SEC กำลังพิจารณาคำขอหลายฉบับ นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กอย่างอีริค บัลชูนา(Eric Balchunas) และเจมส์ เซย์ฟาร์ท(James Seyffart) คาดการณ์ว่าโอกาสที่ ETF ของ XRP จะได้รับการอนุมัติภายในปี 2025 อยู่ที่ 65% SEC ได้รับคำร้องขอหลายรายการ รวมถึงคำขอจากเกรย์สเกล เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาเป็นระยะเวลา 240 วัน
อย่างไรก็ตาม SEC ยังไม่ตัดสินใจอนุมัติ ETF ของ XRP และมีการประกาศเลื่อนการพิจารณาออกไป โดยให้เหตุผลว่าต้องการเวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบรายละเอียด คำร้องที่ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนนี้รวมถึงกองทุน Solana ETF ของ VanEck, กองทุน Litecoin และ Solana ETF ของคานารี่ แคปิตอล รวมถึงกองทุน Dogecoin ETF ของเกรย์สเกล นักลงทุนจึงต้องรอการตัดสินใจเพิ่มเติมจาก SEC ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม
แม้ว่า SEC จะเลื่อนการพิจารณา แต่ราคาของ XRP ยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังเกี่ยวกับ ETF โดยพุ่งขึ้นกว่า 8% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และซื้อขายอยู่ที่ $2.19 (ประมาณ 3,200 บาท) ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก CasiTrades เชื่อว่าหาก XRP ยังสามารถรักษาระดับแนวรับที่ $2.04 ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยมีแนวต้านต่อไปที่ $2.25 และ $2.70
นอกจากนี้ นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นราคาของ XRP เนื่องจากมีรายงานว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาให้ XRP เป็นหนึ่งในสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์ของประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายของ SEC และอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาอนุมัติ ETF ในอนาคต นักลงทุนจึงจับตาดูการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลและท่าทีของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0